นายกรัฐมนตรีไทย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางเยือนทำเนียบขาวที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ และได้พบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์ และวีโอเอไทยได้สัมภาษณ์ พล.อ. ประยุทธ์หลังจากที่เดินทางกลับจากทำเนียบขาว
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชาแสดงทัศนะเกี่ยวกับศักยภาพของไทยในฐานะแกนกลางของภูมิภาคที่มหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ให้ความสนใจ
นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวถึงเรื่องสำคัญในตอนนี้ คือกรณีเกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธและเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ซึ่งละเมิดต่อมติสหประชาชาติหลายครั้ง
ผู้นำไทยกล่าวว่าไทยได้ร่วมใช้มาตรการกดดันเกาหลีเหนือจนขณะนี้ธุรกรรมกับเกาหลีเหนือลดลงมาอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม พล.อ. ประยุทธ์ บอกว่าประธานาธิบดีทรัมป์ขอร้องให้อาเซียนช่วยแสดงบทบาทต่อเนื่อง เพื่อให้เกาหลีเหนือปลอดเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ประเด็นดังกล่าวถูกระบุอยู่ในแถลงการณ์ร่วมของผู้นำทั้งสอง ที่ทำเนียบขาวส่งให้สื่อหลังการหารือเมื่อวานนี้
ในกรณีของเมียนมา การเผชิญหน้ากันระหว่างกองทัพรัฐบาลและกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงจะปะทุขึ้นรอบใหม่เมื่อเดือนสิงหาคม จนมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน และเกิดเหตุการณ์การอพยพของชาวโรฮิงจะผู้นับถือศาสนามุสลิมประมาณ 5 แสนคน พยายามหลั่งไหลเข้าบังคลาเทศ
วิกฤตครั้งนี้ เลขาธิการสหประชาชาติ นายแอนโตนิโอ กูเตเรส กล่าวว่าเป็นตัวอย่างของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่นางออง ซาน ซูจี ผู้นำเมียนมา ออกมาปฏิเสธในเวลาต่อมา
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ไทยให้เกียรติรัฐบาลเมียนมาในการจัดการกับปัญหา และได้บอกกับฝ่ายสหรัฐฯ ว่าไทยจะร่วมดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชนและผู้ได้รับผลกระทบ
(ในตอนต่อไป วีโอเอไทยจะนำเสนอทัศนะของ พล.อ. ประยุทธ์ เรื่องอนาคตทางการเมืองของตน และความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรีไทยต่อภาวะผู้นำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์)
สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท
