เจ้าหน้าที่เนปาลเปิดเผยการค้นพบศพผู้โดยสารและลูกเรือของเครื่องบินเล็กของสายการบิน ทารา แอร์ (Tara Air) จำนวน 20 ศพ ที่ตกลงในเขตหุบเขาของเทือกเขาหิมาลัยเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่อีก 2 คนยังไม่ทราบชะตากรรม
เครื่องบินรุ่น De Havilland Canada DHC-6-300 Twin Otter ของสายการบิน ทารา แอร์ มุ่งหน้าออกจากเมือง Pokhara ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันออกราว 200 กิโลเมตรในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ไปยังเมือง Jomsom เมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเทือกเขา ซึ่งตามกำหนดแล้วจะใช้เวลาเพียง 20 นาทีในการเดินทาง แต่เครื่องบินขาดการติดต่อกับหอบังคับการบินไปราว 5 นาทีก่อนกำหนดที่เครื่องจะลงจอด และต่อมาพบว่าเครื่องบินลำนี้ตกลงบริเวณหุบเขา
สำนักงานตำรวจเนปาล ระบุว่า เที่ยวบินดังกล่าวมีลูกเรือ 3 คน และผู้โดยสาร 19 คน ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ 6 คน โดยเป็นชาวเนปาล 16 คน ชาวอินเดีย 4 คน และชาวเยอรมัน 2 คน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถเก็บกู้ศพจากบริเวณที่เครื่องบินตกได้แล้ว 20 ศพ
ดีโอ จันทรา ลัล คาร์นา โฆษกสำนักงานการบินพลเรือนเนปาล กล่าวว่า "มีโอกาสน้อยอย่างยิ่งที่จะพบผู้รอดชีวิต" ขณะที่ภารกิจกู้ภัยในเขตมัสแตงยังคงดำเนินต่อไปท่ามกลางสภาพภูมิประเทศที่ยากลำบากในเขตหุบเขาลาดชัน และสภาพอากาศที่ไม่ดีนัก
ทั้งนี้ ตามข้อมูลของเว็บไซต์ติดตามเส้นทางการบิน flightradar24.com ระบุว่า เครื่องบินอายุ 43 ปีลำนี้ มุ่งหน้าจากเมือง Pokhara ในเวลา 04.10 น. และพบสัญญาณของเครื่องบินครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 04.22 น. ที่ความสูง 3,900 เมตร
เส้นทางนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินป่าชาวต่างชาติที่อยากสัมผัสประสบการณ์กับเส้นทางบนเขา รวมทั้งผู้แสวงบุญชาวอินเดียและเนปาล ที่มาเยี่ยมชมวัดมุกตินาถ (Muktinath) อันเป็นที่เคารพสักการะ
ที่ผ่านมา เมื่อปี 2016 มีอุบัติเหตุเครื่องบินสายการบิน ทารา แอร์ ในเส้นทางเดียวกันนี้ ตกหลังจากขึ้นบินได้ไม่นาน คร่าชีวิต 23 คนบนเครื่องทั้งหมด และในปี 2012 เที่ยวบินสายการบิน แอคนี แอร์ ตกและคร่าชีวิต 15 คน และมี 6 คนรอดชีวิต ส่วนในปี 2014 สายการบิน เนปาล แอร์ไลน์ส เที่ยวบินจาก Pokhara ไปยัง Jumla ตกและผู้โดยสาร 18 คนบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด