หลังจาก John Ryder ชาวอเมริกันอายุ 69 ปีเกษียณจากอาชีพครูโรงเรียนมัธยม ฐานะทางการเงินของเขาไม่เอื้ออำนวยให้เขาจ่ายค่าเช่าอพาร์ตเมนท์เเถวอ่าวซานฟรานซิสโกต่อไปได้ เพราะย่านนี้ถือว่ามีค่าครองชีพสุงที่สุดเเห่งหนึ่งในสหรัฐฯ เเละในปี ค.ศ. 2015 หรือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เขาตัดสินใจย้ายไปอาศัยในฟิลิปปินส์เพราะค่าครองชีพที่ถูกกว่า
เขาบอกว่าชีวิตหลังเกษียณในฟิลิปปินส์ไม่เลวเลย หลังจากเริ่มคุ้นเคยเเละได้ลิ้มลองสิ่งใหม่ๆ เขาทานอาหารกลางวันสไสตล์อเมริกันราคาเป็นกันเองที่ร้านอาหารทหารผ่านศึกใกล้กับฐานทัพเก่า Clark Field ของสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงมะนิลา
คุณ Ryder เป็นหนึ่งในผู้เกษียณอายุชาวอเมริกันจำนวนมากที่ได้รับวีซ่าผู้เกษียณอายุจากฟิลิปปินส์เพื่อเข้าไปอาศัยในประเทศ รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกวีซ่าเป็นจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา รวมทั้งหมด 6,437 วีซ่า ซึ่งรวมทั้งคู่สมรสเเละบุตร
ตัวเลขจำนวนวีซ่าในปี 2018 ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
สำนักงานผู้เกษียณอายุแห่งฟิลิปปินส์รายงานว่า รัฐบาล Philippines ได้ออกวีซ่าเเก่ผู้เกษียณอายุชาวต่างชาติถึง 63,538 คน ตั้งเเต่เริ่มออกวีซ่าประเภทนี้ในปี ค.ศ. 1987
ผู้เกษียณอายุชาวต่างชาติชอบวิถีชีวิตในฟิลิปปินส์ที่ถูกกว่าวิถีชีวิตในประเทศบ้านเกิดที่พัฒนาเเล้ว ขณะเดียวกันฟิลิปปินส์ที่ยากจนกว่าก็ได้รับผลประโยชน์ตอบเเทนทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายเงินของผู้เกษียณอายุต่างชาติเหล่านี้ ตั้งเเต่ค่าอาหารเเละการลงทุน
ในบริเวณรอบๆ ฐานทัพอเมริกันเก่า Clark Field มีท่าอากาศยานนานาชาติตั้งอยู่ คุณ Ryder บอกว่า อาหารกลางวันที่ขายกันแถวฐานทัพเก่านี้ราคาไม่เกิน 10 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ได้ดื่มเบียร์ราคาไม่เเพง ค่าเป็นสมาชิกในยิมออกกำลังกายก็ถูกเเละยังจับเครื่องบินไปเที่ยวฮ่องกงที่ทันสมัยกว่าได้สะดวกเเละรวดเร็ว ชายทะเลที่ใกล้ที่สุดห่างจากฐานทัพเก่า Clark ไปเเค่ระยะทางขับรถ 1 ชม.เท่านั้น
คุณ Ryder บอกว่า หากอยากเดินทางไปที่อื่น ก็เพียงเเค่ไปที่สนามบิน ก็เดินทางออกจากกรุงมะนิลาได้ทันที
ส่วนคุณ Arch Turner อายุ 76 ได้ย้ายมาอยู่ฟิลิปปินส์เมื่อ 9 ปีที่เเล้วทั้งๆ ที่ไม่ชอบเอเชียเลยเพราะเคยไปรบในสงครามเวียดนาม เเต่ตอนนี้เขามีความสุขกับการใช้ชีวิตไม่หรูหราเเละนั่งรถมอเตอร์ไซด์ไปไหนมาไหนทุกวัน ดูทีวีเพื่อความบันเทิงเเละบริจาคเงินให้กับเด็กชาวฟิลิปปินส์ยากจน
โฆษกของสำนักงานผู้เกษียณอายุเเห่งฟิลิปปินส์ กล่าวกับวีโอเอว่า โครงการวีซ่าผู้เกษียณอายุของฟิลิปปินส์ได้รับความนิยมมากกว่าโครงการของชาติเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียเเละประเทศไทย เพราะกำหนดระดับอายุขั้นต่ำที่มีสิทธิ์ขอวีซ่าประเภทนี้ไว้ที่ 35 ปี เเละขั้นตอนการสมัครก็ไม่ยุ่งยาก
ชาวต่างชาติต้องฝากเงินจำนวนตั้งเเต่ $10,000 ถึง $50,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือสามแสนบาทถึงหนึ่งล้านห้าแสนบาท ในบัญชีเงินฝากธนาคารของฟิลิปปินส์ในตอนที่สมัคร โดยจำนวนเงินฝากขึ้นอยู่กับอายุ ผู้เกษียณอายุจะได้รับเงินคืนหากย้ายออกจากประเทศอย่างถาวร
เมื่อปีที่เเล้ว ฟิลิปปินส์มีผู้เกษียณอายุชาวจีนเข้าไปอาศัยมากที่สุดที่ร้อยละ 40 ตามมาด้วยชาวเกาหลีใต้ที่ร้อยละ 21 เเละชาวอเมริกันเป็นอันดับที่ 6 ที่ร้อยละ 4.7
ผู้เกษียณอายุชาวต่างชาติสร้างรายได้เเก่ภาคการบริการของฟิลิปปินส์อย่างมาก ขณะที่ 1 ใน 5 ของชาวฟิลิปปินส์ยากจนเพราะไม่มีงานทำ ในเขตเมืองใกล้กับฐานทัพเก่า Clark Field ดึงดูดคนจากพื้นที่ยากจนอื่นๆ ทั่วประเทศเข้าไปทำงานในภาคบริการ
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)