กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ประกาศการจัดงบประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์เพื่อใช้สำหรับแผนงานความช่วยเหลือด้านความมั่นคงให้กับยูเครน โดยงบดังกล่าวถือเป็นเงินก้อนใหญ่ที่สุดอีกก้อนในการจ่ายหนึ่งครั้งสำหรับการจัดหาอาวุธและยุทโธปกรณ์จากคลังของสหรัฐฯ นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
คอลิน คาห์ล รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า งบช่วยเหลือล่าสุดสำหรับยูเครนจะรวมความถึง กระสุนสำหรับระบบ High Mobility Artillery Rocket System หรือ HIMARS และขีปนาวุธ ‘จาเวลิน’ (Javelin) ต่อต้านรถถังจำนวน 1,000 ลูก รวมทั้ง กระสุนปืนใหญ่จำนวนหนึ่งและพาหนะหุ้มเกราะสำหรับงานด้านการแพทย์อีก 50 คันด้วย
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ทำไมจึงมีการนำส่งกระสุนสำหรับระบบ HIMARS โดยไม่ได้ส่งมอบตัวระบบเพิ่ม รองรัฐมนตรีฯ คาห์ล กล่าวว่า ระบบยิงดังกล่าวจำนวน 16 ชุดที่รัฐบาลสหรัฐฯ นำส่งไปก่อนหน้าถือว่า “มากพออยู่” ตามการประเมินของเพนตากอน
นอกจากนั้น สหรัฐฯ จะยังมอบทุ่นระเบิดสังหาร ‘เคลย์มอร์’ (Claymore) พร้อมวัสดุอุปกรณ์สำหรับระบบยิงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานแบบเดียวกับที่ใช้ในกรุงวอชิงตันด้วย
เมื่อคิดรวมมูลค่าการช่วยเหลือรอบนี้แล้ว สหรัฐฯ ได้จัดงบด้านความมั่นคงเพื่อช่วยยูเครนไปแล้วเป็นเงินถึง 9,800 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก้าวขึ้นรับตำแหน่งเมื่อต้นปีที่แล้ว และสูงถึง 11,800 ล้านดอลลาร์ หากนับตั้งแต่เมื่อรัสเซียผนวกแคว้นไครเมียเข้ากับตนอย่างผิดกฎหมายในปี ค.ศ. 2014
รองรัฐมนตรีฯ คาห์ล กล่าวด้วยว่า รัสเซียประสบความสูญเสียอย่างหนักตั้งแต่เริ่มรุกรานยูเครน โดยการประเมินชี้ว่า ยูเครนสามารถกำจัดพาหนะหุ้มเกราะของรัสเซียไปแล้ว 3,000-4,000 คัน และทำให้ทหารรัสเซียเสียชีวิตและบาดเจ็บไป 70,000-80,000 คน
ขณะเดียวกัน หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐฯ (U.S. Agency for International Development - USAID) ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า รัฐบาลกรุงวอชิงตันจะมอบงบช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจำนวน 4,500 ล้านดอลลาร์ให้กับยูเครนด้วย
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก รอยเตอร์และเอพี