เกิดเหตุสะพานถนนมอเตอร์เวย์ ในเมืองเจนัว (Genoa) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี เกิดพังถล่มลงมา ระหว่างที่เกิดพายุฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 30 ราย
เหตุระทึกขวัญนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น. ของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น เมื่อสะพานโมรันดี (Morandi) ที่เชื่อมต่อถนนมอเตอร์เวย์ A10 เกิดพังถล่มลงมาบางส่วนในช่วงที่ฝนตกหนัก ทำให้ซากสะพานและรถยนต์จำนวนมากร่วงลงไปยังทางรถไฟ อาคาร และแม่น้ำที่อยู่ต่ำลงไปราว 45 เมตรด้านล่าง
นายกรัฐมนตรีอิตาลี จูเซปเป้ คองเต้ เดินทางถึงจุดเกิดเหตุในเมืองเจนัว เพื่อกำกับดูแลการค้นหากู้ภัย รวมทั้งให้กำลังใจครอบครัวและเหยื่อจากเหตุสะพานถล่มครั้งเลวร้ายนี้
สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิต ที่ทางการลิกูเรีย รายงานเมื่อวันอังคาร อยู่ที่ 26 ราย บาดเจ็บสาหัส 15 ราย แต่สำนักงานดับเพลิงของอิตาลี เปิดเผยกับสำนักข่าว ANSA ของอิตาลี ว่า ผู้เสียชีวิตอาจมากถึง 30-35 คน ซึ่ง 1 ในผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก ขณะที่มีผู้สูญหายอีก 12 คน และอีก 440 คนไร้ที่อยู่อาศัยหลังจากสะพายถล่มทับอาคารบ้านเรือนเบื้องล่าง
ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในของอิตาลี แมตเตโอ ซัลวินี เปิดเผยว่า จะเรียกตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุสะพานถล่มครั้งนี้มาสอบปากคำทั้งหมด เพราะเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ที่อุบัติเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นในอิตาลี
ก่อนจะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ขึ้น หลังเกิดเหตุ โฆษกของบริษัทผู้ให้บริการมอเตอร์เวย์ของอิตาลี Autostade ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์สว่า สะพานดังกล่าวไม่มีความเสี่ยงใดๆ อย่างที่กังวล
ขณะที่สำนักข่าว ANSA รายงานว่า สะพานมอเตอร์เวย์ที่เกิดเหตุ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1967 เป็นส่วนหนึ่งของถนนมอเตอร์เวย์ A10 ที่เชื่อมโยงเมืองริเวียรากับชายฝั่งตอนใต้ของฝรั่งเศสและผ่านการซ่อมบำรุงมาแล้วเมื่อปี ค.ศ. 2016 หลังจากพบว่าพื้นที่บางจุดของสะพานเสี่ยงต่อการพังถล่ม