รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน ชาห์ เมห์มูด คูเรชี ออกมาปฏิเสธความเห็นที่ว่า การที่รัฐบาลกรุงอิสลามาบัดทำตัวเป็นกลางในกรณีวิกฤตสงครามยูเครน-รัสเซีย กำลังทำให้ความสัมพันธ์ของปากีสถานและสหรัฐฯ รวมทั้งชาติตะวันตกทั้งหลายเริ่มสั่นคลอน
รมต.คูเรชี บอกกับ วีโอเอ ในวันอาทิตย์ว่า ปากีสถานไม่ต้องการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะเคยต้องเลือกข้างแล้วและต้องประสบปัญหามาแล้วในอดีต ดังนั้น อิสลามาบัดจึงพยายามคิดอย่างถี่ถ้วนในการดำเนินการต่างๆ และไม่ต้องการสูญเสียความเป็นกลางไม่ว่าในกรณีใดๆ
นับตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครนมา ปากีสถานไม่ยอมทำตามแรงกดดันจากชาติตะวันตกให้ร่วมประณามรัสเซียต่อการส่งกองทัพบุกยูเครน โดยของดไม่ออกเสียงในการลงมติทั้งในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและที่ประชุมใหญ่องค์การสหประชาชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อประณามรัสเซีย และเลือกที่จะเรียกร้องให้มีการเจรจาและใช้หนทางทางการทูตเพื่อแก้ไขปัญหาแทน
รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถานยืนยันกับ วีโอเอ ว่า “หนทางเดียวที่สมเหตุสมผลที่สุดก็คือ วิถีทางการทูต" พร้อมย้ำว่า การที่มีผู้กล่าวหาว่า ปากีสถานเลือกจะอยู่ข้างเดียวกับรัสเซียนั้นเป็น “เรื่องเท็จ” และ “การตีความที่ผิดๆ” เกี่ยวกับจุดยืนความเป็นกลางของอิสลามาบัด
นอกจากนั้น รมต.คูเรชี ยังบอกกับ วีโอเอ ด้วยว่า ตนได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ เมื่อวันเสาร์ พร้อมกล่าวย้ำเกี่ยวกับ “ความกังวลของรัฐบาลอิสลามาบัดเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดในยูเครน” ซึ่ง รมต.ลาฟรอฟ ยืนยันกลับมาว่า มอสโกนั้นไม่ได้จะ “บอกปัดแนวคิดการเจรจา” กับกรุงเคียฟ “เพื่อหารือข้อสรุปบางอย่างระหว่างกัน” ทั้งกล่าวด้วยว่า การเจรจากับยูเครนที่ผ่านมาถึง 2 รอบแล้วนั้นมีความคืบหน้าด้านบวกที่ดีด้วย