ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ปากีสถานยิงตอบโต้อิหร่าน-จ่อยกระดับความตึงเครียดตะวันออกกลาง


ภาพธงชาติอิหร่านเหนืออาคารที่ทำการสำนักงานกงสุลใหญ่ของตน ในนครการาจี ประเทศปากีสถาน
ภาพธงชาติอิหร่านเหนืออาคารที่ทำการสำนักงานกงสุลใหญ่ของตน ในนครการาจี ประเทศปากีสถาน

ปากีสถานเปิดเผยว่า ฝ่ายตนยิงจรวดและส่งโดรนเข้าโจมตีกลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดน บัลลอค (Baloch) ที่ตั้งมั่นอยู่ในอิหร่านในวันพฤหัสบดี เพื่อตอบโต้การโจมตีเมื่อ 2 วันก่อนซึ่งเป็นปฏิบัติการที่รัฐบาลกรุงเตหะรานระบุว่า เป็นการโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธอีกกลุ่มในอาณาเขตของปากีสถาน ตามรายงานของรอยเตอร์

สื่ออิหร่านรายงานว่า ขีปนาวุธหลายลูกถูกยิงเข้าใส่พื้นที่จังหวัดซีสถานและบาโลชิสถานของอิหร่านที่ติดอยู่กับชายแดนปากีสถาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน โดย 4 คนเป็นเด็ก

พื้นที่จังหวัดซีสถานและบาโลชิสถานของอิหร่านที่ติดอยู่กับชายแดนปากีสถาน
พื้นที่จังหวัดซีสถานและบาโลชิสถานของอิหร่านที่ติดอยู่กับชายแดนปากีสถาน

เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงรายหนึ่งของปากีสถานบอกกับวีโอเอ โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อ ว่า เครื่องบินรบของปากีสถานทำการทิ้งระเบิดเข้าใส่เป้าหมายในอิหร่าน โดยไม่ได้บินเข้าไปในน่านฟ้าของประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ โดยจุดที่เป็นเป้าโจมตีคือค่ายของกองทัพปลอดปล่อยบาลูจิสถาน (Baluchistan Liberation Army) ที่เป็นกลุ่มต่อต้านปากีสถาน และถูกสหรัฐฯ ขึ้นชื่อในบัญชีดำว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายด้วย

อิหร่านและปากีสถานมีสายสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นมานานหลายปี แต่การโจมตีที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ถือเป็นการรุกล้ำข้ามแดนระหว่างกันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี ทั้งยังเกิดขึ้นในช่วงที่มีความกังวลเกี่ยวกับความไม่สงบในตะวันออกกลางสืบเนื่องมาจากสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสอยู่

กระทรวงการต่างประเทศปากีสถานกล่าวว่า ในปฏิบัติการของตนที่อ้างอิงข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองและมีการประสานงานกันหลายฝ่ายเพื่อทำการโจมตีเป้าหมายเฉพาะเจาะจง มีการสังหารผู้ก่อการร้ายได้หลายคน พร้อมระบุว่า “จุดประสงค์หนึ่งเดียวของปฏิบัติการวันนี้คือ เพื่อความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งชาติของปากีสถานเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งและไม่สามารถรอมชอมได้”

เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของปากีสถานอีกรายบอกกับรอยเตอร์ว่า กองทัพปากีสถานกำลังเฝ้าระวังภัย “ในขั้นขีดสุด” และพร้อมจะรับมือกับ “เหตุร้ายใด ๆ” จากฝั่งอิหร่านด้วยสรรพกำลังทั้งหมด

ขณะเดียวกัน กรุงเตหะรานออกมาประณามการโจมตีของปากีสถานที่มีการระบุว่า ทำให้พลเรือนเสียชีวิต และได้เรียกต้องอุปทูตรักษาการผู้มีอำนาจเต็มของปากีสถานเข้าพบเพื่ออธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

อาห์เหม็ด วาฮิดิ รัฐมนตรีมหาดไทยของอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่า “ข้อมูลที่ได้รับมานั้นระบุว่า เด็ก 4 คน ผู้หญิง 3 คนและผู้ชาย 2 คน ซึ่งล้วนเป็นชาวต่างชาติ ถูกสังหารในเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง”

ส่วนที่กรุงอิสลามาบัด โฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า อันวาร์-อัล-ฮาค คาคาร์ รักษาการนายกรัฐมนตรีปากีสถาน จะลดวันเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเร่งเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดนี้

กระแสกลัวการยกระดับความขัดแย้ง

ในช่วงที่ผ่านมา อิหร่านออกมาแสดงสรรพกำลังทางทหารในภูมิภาคตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะทำการโจมตีข้ามพรมแดนไปในปากีสถานในสัปดาห์นี้เสียอีก ขณะที่ สองประเทศเพื่อนบ้านก็มีท่าทีที่จะพยายามพัฒนความสัมพันธ์ระหว่างกันอยู่

ชายคนหนึ่งยืนดูรายงานข่าวทางโทรทัศน์ หลังกระทรวงการต่างประเทศปากีสถานแถลงว่า ทำการยิงโจมตีเข้าใส่เป้าหมายที่เป็นกลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนในอาณาเขตของอิหร่าน เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 (Reuters)
ชายคนหนึ่งยืนดูรายงานข่าวทางโทรทัศน์ หลังกระทรวงการต่างประเทศปากีสถานแถลงว่า ทำการยิงโจมตีเข้าใส่เป้าหมายที่เป็นกลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนในอาณาเขตของอิหร่าน เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 (Reuters)

แต่แม้ความเห็นต่าง ๆ จากปากีสถานหลังการโจมตีโต้กลับจะส่งสัญญาณต้องการให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บานปลายออกไป นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า ทุกอย่างอาจยกระดับเกินควบคุมได้อยู่ดี

อัสฟานด์ยาร์ เมียร์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านความมั่นคงเอเชียใต้แห่ง U.S. Institute of Peace บอกกับรอยเตอร์ว่า “แรงจูงใจของการโจมตีปากีสถานของอิหร่านนั้นยังคงดูไม่ชัดเจน แต่เมื่อพิจารณาพฤติกรรมกว้าง ๆ ของอิหร่านในภูมิภาคแล้ว สถานการณ์อาจยกระดับรุนแรงขึ้นได้” และว่า “สิ่งที่ทำให้กรุงเตหะรานตื่นตระหนกก็คือว่า ปากีสถานได้ข้ามเส้นแบ่งเขตแดนโดยยิงโจมตีเข้ามาในอาณาเขตของอิหร่าน ซึ่งเป็นเส้นแบ่งที่แม้แต่สหรัฐฯ และอิสราเอลพยายามใช้ความระมัดระวังไม่กล้าล่วงเลย”

และในวันพฤหัสบดี กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกมาเรียกร้องให้ทั้งอิหร่านและปากีสถานใช้ความยับยั้งชั่งใจในระดับสูงสุด และแก้ปัญหาผ่านช่องทางการทูตแทน ขณะที่ ฮาคาน ฟิดาน รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี เปิดเผยหลังพูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านและปากีสถาน ว่า ทั้งสองประเทศต่างไม่ต้องการให้สถานการณ์ความตึงเครียดนี้บานปลายออกไป

  • ข้อมูลบางส่วนมาจากวีโอเอ

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG