ทางการจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ใน 2 เมืองใหญ่ หลังการประท้วงรุนแรงในกวางโจว ขณะที่ชาวจีนในหลายพื้นที่ทั่วโลกลุกฮือประท้วงในสัปดาห์นี้ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจีนยุติมาตรการควบคุมโควิด-19 และการเคลื่อนไหวลุกลามไปเป็นการเรียกร้องให้ “ปลดปล่อยจีน” และกดดันประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้ลาออกจากตำแหน่ง ตามรายงานของรอยเตอร์
ชาวจีนที่พำนักอาศัยในต่างแดน ตั้งแต่นครซิดนีย์ ออสเตรเลีย กรุงโตเกียว ของญี่ปุ่น นครโตรอนโต แคนาดา และมหานครนิวยอร์ก ออกมาเดินขบวนประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดของรัฐบาลจีน และคาดว่าจะมีการประท้วงเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ในอีกไม่กี่วันจากนี้
มีรายงานผู้ประท้วงหลายร้อยคนปักหลักหน้าสถานกงสุลจีนในนิวยอร์ก พร้อมชูกระดาษขาวอันเป็นสัญลักษณ์การประท้วงรัฐบาลจีน บ้างตะโกนเป็นภาษาจีนกลางวิจารณ์เรื่องสิทธิมนุษยชนของจีน และนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลปักกิ่ง ที่กระทบกระเทือนเศรษฐกิจและเสรีภาพของประชาชนจีน
ขณะที่กระทรวงต่างประเทศของจีนไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของชาวจีนในต่างแดนในช่วงเวลาที่รายงานข่าวนี้
การลุกฮือของประชาชนจีนทั้งในและต่างประเทศ เกิดขึ้นหลังจากเหตุเพลิงไหม้อพาร์ตเมนต์ในมณฑลซินเจียง ที่คร่าชีวิต 10 คน และผู้คนบนโลกออนไลน์ของจีนต่างมองว่ามาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวดของรัฐบาลจีนเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตของผู้คนที่ต้องติดอยู่ในอาคารและไม่สามารถออกมาได้ทัน แต่ทางการจีนปฏิเสธในเรื่องนี้
ส่วนในจีนการประท้วงยังดำเนินต่อไปในนครเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง และอีกหลายเมืองของจีน โดยสถานการณ์การประท้วงยกระดับขึ้น เมื่อผู้ชุมนุมในเมืองกวางโจว อันเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของจีน ปะทะกับตำรวจปราบจลาจลที่สวมชุดป้องกันเชื้อโรคในค่ำวันอังคาร
จนเมื่อวันพุธ ทางการจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในเมืองกวางโจวและฉงชิ่ง 1 วันหลังจากเหตุปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจล โดยในกรณีของเมืองฉงชิ่ง ทางการอนุญาตให้ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถกักตัวสังเกตอาการที่บ้านได้ แต่ไม่มีสัญญาณของการผ่อนคลายนโยบายขนานใหญ่แต่อย่างใด
อีกด้านหนึ่ง ผู้ประท้วงและผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงต่างประเทศ เชื่อว่า การถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน ซึ่งเป็นผู้นำประเทศมา 10 ปีและนำพาเศรษฐกิจจีนให้เฟื่องฟูหลังการปราบปรามผู้ประท้วงในจัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อปี 1989 อาจกลายเป็นชนวนการประท้วงใหม่ในครั้งนี้ได้ เนื่องจากมีกระแสเปรียบเทียบบทบาทผู้นำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กับอดีตปธน.เจียง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การต่างประเทศ และการเปิดกว้างกับชาติตะวันตก หลังการเสียชีวิตของอดีตผู้นำวัย 96 ปีในวันพุธ
ด้านหน่วยงาน Freedom House ประเมินว่ามีการชุมนุมประท้วงอย่างน้อย 27 จุดทั่วประเทศจีน ตั้งแต่วันเสาร์จนถึงวันจันทร์ ขณะที่หน่วยงานคลังสมองของออสเตรเลีย ASPI ประเมินว่ามีการประท้วงเกิดขึ้น 43 แห่งใน 22 เมืองทั่วประเทศ
- ที่มา: รอยเตอร์
