'Green Book' ภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องจริงของคู่มือเดินทางของคนผิวสีในอเมริกายุคเหยียดผิวในทศวรรษ 1960 คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิจารณ์ส่วนใหญ่
นอกจากรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแล้ว Green Book ยังพ่วงรางวัลดาราสมทบฝ่ายชายยอดเยี่ยมจาก Mahershala Ali และรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมด้วย
ปมดราม่าหลังการประกาศรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม หลังสิ้นเสียงของจูเลีย โรเบิร์ต ประกาศให้ 'Green Book' คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปีนี้ สร้างความผิดหวังในการตัดสินรางวัลของคณะกรรมการ Academy Award
เริ่มจากผู้กำกับ Spike Lee จากหนังตลกเสียดสี BlacKKKlansman ที่เข้าชิงในสาขาเดียวกัน ถึงกับลุกออกจากงานประกาศรางวัลในทันที โดยกล่าวหลังงานประกาศรางวัลว่า คณะกรรมการออสการ์ตัดสินผิดพลาด และว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องโปรดปรานของเขา
นี่ถือเป็นออสการ์ตัวแรกของเขาในฐานะผู้กำกับและในวงการฮอลลีวู้ด แต่เขาก็ได้แต่บอกว่าเขาอาจไม่มีวาสนาพอ เพราะย้อนไปเมื่อปี ค.ศ. 1990 ภาพยนตร์ Do the Right Thing ของเขาตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน หลังพ่ายแพ้ให้กับ Driving Miss Daisy หนังมิตรภาพหลังพวงมาลัยระหว่างคนขับรถผิวสีกับสตรีผิวขาว ที่คว้าออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในเวทีปีนั้น ก่อนจะพูดติดตลกว่า แค่สลับที่นั่งในรถเท่านั้นก็คว้ารางวัลออสการ์ไปได้
ด้านแชดวิค โบสแมน นักแสดงนำจากภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จากค่ายมาร์เวล Black Panther ที่เข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปีนี้ แสดงความผิดหวังหลังจากทีมงานจากภาพยนตร์ Green Book เกือบทั้งทีมเป็นชายผิวขาวที่ขึ้นรับรางวัลบนเวที
หลังม่านออสการ์ สื่อสังคมออนไลน์ Twitter ระอุต่อ โดย Justin Chang จาก Los Angeles Times บอกว่า ชัยชนะของ Green Book คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ “แย่” ที่สุด นับตั้งแต่เรื่อง Crash หนังความหลากหลายทางเชื้อชาติที่ได้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเมื่อปี ค.ศ. 2006 และสะท้อนว่าหนังที่มีความหลากหลายในฮอลลีวู้ดไม่ได้พัฒนาไปไหน
ผู้สันทัดด้านวงการบันเทิงที่ไม่เห็นด้วยกับหนังดังกล่าว มองว่า Green Book เป็นหนังที่สืบสานแนวคิด White Savior คือ คนขาวผู้กอบกู้ทุกสถานการณ์ ที่มักพบเห็นบ่อยในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ตามมาด้วยคำวิจารณ์จากครอบครัวของ Don Shirley ผู้เป็นแรงบันดาลใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ บอกว่า Green Book คือ ท่วงทำนองแห่งการหลอกลวง