ประเทศสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปค รวมทั้งพันธมิตร ประกาศในวันพฤหัสบดีว่าจะเลื่อนการดำเนินการเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนออกไปอีกระยะ หลังราคาน้ำมันดิบร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ราคาน้ำมันปรับลดลงตามทิศทางของตลาดการลงทุนและสินค้าต่าง ๆ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจโลกที่อ่อนตัวและข้อมูลเศรษฐกิจของจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกที่ออกมาไม่สู้ดีนัก
สมาชิกกลุ่มโอเปค พร้อมพันธมิตรอื่น ๆ เช่น รัสเซีย ซึ่งรวมกันทั้งหมด 8 ประเทศ หรือ โอเปคพลัส ที่เดิมมีกำหนดจะปรับขึ้นกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนตุลาคม ร่วมการประชุมออนไลน์ในวันพฤหัสบดี ก่อนจะมีแถลงการณ์ออกมาว่า ทางกลุ่ม “ได้ตกลงที่จะเลื่อนระยะเวลาการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมโดยสมัครใจเป็นจำนวนวันละ 2.2 ล้านบาร์เรลเป็นระยะเวลา 2 เดือนไปจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ปี 2024”
คำประกาศดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกปรับขึ้นบาร์เรลละ 1 ดอลลาร์ทันที โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ซื้อขายที่ระดับกว่า 74 ดอลลาร์ระยะหนึ่ง หลังอ่อนตัวถึงระดับต่ำสุดของปีเมื่อวันพุธ
รายงานข่าวระบุว่า เดิมที แผนการของกลุ่มโอเปคพลัสนั้นจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันวันละ 180,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่เล็กน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนการผลิตที่ 5.86 ล้านบาร์เรลต่อวันในเวลานี้ แต่ก็เท่ากับ 5.7% ของความต้องการทั่วโลก เพื่อหวังช่วยพยุงตลาดที่เผชิญความผันผวนของอุปสงค์และอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากประเทศนอกกลุ่ม
เฮลิมา ครอฟท์ นักวิเคราะห์จาก RBC Capital ระบุในบันทึกความเห็นว่า การที่โอเปคพลัสรอจนถึงต้นเดือนธันวาคม ก่อนจะลงมือปรับขึ้นกำลังการผลิต น่าจะเป็นทิศทางการทำงานที่มีความรอบคอบระมัดระวังกว่า
รัฐมนตรีโอเปคพลัสจะจัดการประชุมเต็มรูปแบบเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายของกลุ่มในวันที่ 1 ธันวาคมนี้
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น