การแข่งขันกีฬา Olympics ฤดูหนาวจะเริ่มต้นวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ที่เมือง Sochi ใน Russia คาดกันว่าเจ้าภาพผู้จัดกีฬา Olympics ที่ว่านี้ ต้องใช้จ่ายเงินมากกว่า ห้าหมื่นล้านดอลล่าร์ คำถามก็คือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหรือไม่
Russia ผู้เป็นเจ้าภาพ ได้สร้างอาคารใหม่ 7 แห่งสำหรับการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ เรียงรายตามฝั่งทะเลดำ และแหล่งเล่นสกีในภูเขาใกล้เคียง กีฬา Olympics ฤดูหนาวที่ Sochi นี้ จะดำเนินไปเป็นเวลา 17 วันด้วยกัน
แต่เมื่อการแข่งขันเสร็จสิ้นลงแล้ว Russia จะต้องเผชิญหน้ากับภาระหนี้สินที่กล่าวกันว่าเป็นการจัดกีฬา Olympics ที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ค่าใช้จ่ายที่ใกล้เคียงกันคือการจัดกีฬา Olympics ฤดูร้อนที่กรุงปักกิ่งเมื่อเกือบห้าปีที่แล้ว ที่กล่าวกันว่าจีนใช้เงินไปประมาณสี่หมื่นล้านดอลล่าร์
ส่วนการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬา Olympics ฤดูร้อนที่จะมีขึ้นในอีกสองปีข้างหน้าที่นคร Rio de Janeiro ในบราซิลนั้น ประมาณกันว่าจะตกราวๆ หนึ่งหมื่นสี่พันล้านดอลล่าร์ แต่ยังมีเวลาอีกถึงสองปี และรับประกันไม่ได้ว่าค่าใช้จ่ายจะไม่เพิ่มขึ้น
คำถามก็คือ ถ้าแพงอย่างนี้ ทำไมหลายประเทศและหลายเมืองจึงแข่งขันอยากจะเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้กัน
Bob Sweeney ผู้นำกลุ่ม DC2024 ซึ่งกำลังรณรงค์เพื่อให้กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้เป็นเจ้าภาพจัดกีฬา Olympics ฤดูร้อนสำหรับปี ค.ศ. 2024 บอกว่า เมืองใหญ่ต้องทำสิ่งยิ่งใหญ่ และกีฬา Olympics เป็นกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
แต่อาจารย์ Lisa Delpy Neirotti ซึ่งสอนวิชา sport management ที่มหาวิทยาลัย George Washington ในกรุงวอชิงตันบอกว่า แต่ละเมืองก็มีความมุ่งหมายของตนเอง
สำหรับ Sochi นอกจากอยากจะสร้างแหล่งพักตากอากาศระดับโลกสำหรับเล่นสกีแล้ว ยังอยากจะแนะนำ Sochi ให้ผู้คนทั่วโลกได้รู้จักด้วย ว่าเป็นแหล่งตากอากาศชั้นหนึ่งทั้งหน้าหนาวและหน้าร้อน
สำหรับลอนดอน ในการจัดกีฬา Olympics ฤดูร้อนเมื่อปี 2012 ก็เพราะอยากจะกลับเข้าไปพัฒนาเขต East End ส่วน New York ที่แข่งขันอยากจะเป็นเจ้าภาพก็เพราะอยากจะสร้างสนามฟุตบอลใหม่ให้ทีมฟุตบอลอเมริกัน New York Giants และ Jets
อาจารย์วิชา sport management ผู้นี้บอกว่า ถ้าจะให้ประมาณค่าจัดจริงสำหรับเจ้าภาพแล้ว คิดว่าไม่น่าจะเกินสามพันล้านดอลล่าร์ โดยรวมค่าขนส่งคมนาคมและการรักษาความปลอดภัยไว้ด้วยแล้ว
นักวิชาการผู้นี้บอกว่า เงินจำนวนนี้ส่วนใหญ่มาจากสปอนเซ่อร์และการกระจายเสียงแพร่ภาพ ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เอามาพูดกันนั้น เป็นเรื่องของการพัฒนาประชาคมทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างถนนสี่เลนขึ้นเขา รถไฟความเร็วสูง และอาคารสำหรับแข่งขันกีฬาที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งถ้าไม่ต้องสร้างสิ่งเหล่านี้ ค่าใช้จ่ายสำหรับจัดงานจริงๆ ก็จะไม่มากนัก
อาจารย์ Lisa บอกไว้ว่า ถ้าประเทศเจ้าภาพวางแผนไว้ดี ก็จะไม่มีปัญหาทางการเงินตามมาในภายหลัง ด้วยเหตุนี้ จึงคิดว่าเป็นภาระหน้าที่ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ที่ควรเลือกประเทศหรือเมืองเจ้าภาพที่มีแผนที่ดี มีความรับผิดชอบ และให้ความเห็นว่า คณะกรรมการโอลิมปิกสากลจะต้องพิจารณาปัจจัยที่ทำให้เกิดคอรัปชั่นได้อย่างพินิจพิเคราะห์ ปัจจัยทางด้านคุณภาพชีวิต และทำความเข้าใจบริบทให้ได้จริงๆ แม้ประเทศนั้นๆ อาจจะบอกว่า ‘เราทำได้’ ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม อาจารย์ Lisa ไม่เชื่อว่า การให้ Sochi เป็นเจ้าภาพจัดกีฬา Olympics ฤดูหนาวครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ IOC และว่า ไม่เคยเห็นเมืองที่ไม่มีแหล่งเล่นสกี อย่าง Sochi ได้เป็นเจ้าภาพจัด Olympics ฤดูหนาวมาก่อนหน้านี้เลย
Russia ผู้เป็นเจ้าภาพ ได้สร้างอาคารใหม่ 7 แห่งสำหรับการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ เรียงรายตามฝั่งทะเลดำ และแหล่งเล่นสกีในภูเขาใกล้เคียง กีฬา Olympics ฤดูหนาวที่ Sochi นี้ จะดำเนินไปเป็นเวลา 17 วันด้วยกัน
แต่เมื่อการแข่งขันเสร็จสิ้นลงแล้ว Russia จะต้องเผชิญหน้ากับภาระหนี้สินที่กล่าวกันว่าเป็นการจัดกีฬา Olympics ที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ค่าใช้จ่ายที่ใกล้เคียงกันคือการจัดกีฬา Olympics ฤดูร้อนที่กรุงปักกิ่งเมื่อเกือบห้าปีที่แล้ว ที่กล่าวกันว่าจีนใช้เงินไปประมาณสี่หมื่นล้านดอลล่าร์
ส่วนการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬา Olympics ฤดูร้อนที่จะมีขึ้นในอีกสองปีข้างหน้าที่นคร Rio de Janeiro ในบราซิลนั้น ประมาณกันว่าจะตกราวๆ หนึ่งหมื่นสี่พันล้านดอลล่าร์ แต่ยังมีเวลาอีกถึงสองปี และรับประกันไม่ได้ว่าค่าใช้จ่ายจะไม่เพิ่มขึ้น
คำถามก็คือ ถ้าแพงอย่างนี้ ทำไมหลายประเทศและหลายเมืองจึงแข่งขันอยากจะเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้กัน
Bob Sweeney ผู้นำกลุ่ม DC2024 ซึ่งกำลังรณรงค์เพื่อให้กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้เป็นเจ้าภาพจัดกีฬา Olympics ฤดูร้อนสำหรับปี ค.ศ. 2024 บอกว่า เมืองใหญ่ต้องทำสิ่งยิ่งใหญ่ และกีฬา Olympics เป็นกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
แต่อาจารย์ Lisa Delpy Neirotti ซึ่งสอนวิชา sport management ที่มหาวิทยาลัย George Washington ในกรุงวอชิงตันบอกว่า แต่ละเมืองก็มีความมุ่งหมายของตนเอง
สำหรับ Sochi นอกจากอยากจะสร้างแหล่งพักตากอากาศระดับโลกสำหรับเล่นสกีแล้ว ยังอยากจะแนะนำ Sochi ให้ผู้คนทั่วโลกได้รู้จักด้วย ว่าเป็นแหล่งตากอากาศชั้นหนึ่งทั้งหน้าหนาวและหน้าร้อน
สำหรับลอนดอน ในการจัดกีฬา Olympics ฤดูร้อนเมื่อปี 2012 ก็เพราะอยากจะกลับเข้าไปพัฒนาเขต East End ส่วน New York ที่แข่งขันอยากจะเป็นเจ้าภาพก็เพราะอยากจะสร้างสนามฟุตบอลใหม่ให้ทีมฟุตบอลอเมริกัน New York Giants และ Jets
อาจารย์วิชา sport management ผู้นี้บอกว่า ถ้าจะให้ประมาณค่าจัดจริงสำหรับเจ้าภาพแล้ว คิดว่าไม่น่าจะเกินสามพันล้านดอลล่าร์ โดยรวมค่าขนส่งคมนาคมและการรักษาความปลอดภัยไว้ด้วยแล้ว
นักวิชาการผู้นี้บอกว่า เงินจำนวนนี้ส่วนใหญ่มาจากสปอนเซ่อร์และการกระจายเสียงแพร่ภาพ ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เอามาพูดกันนั้น เป็นเรื่องของการพัฒนาประชาคมทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างถนนสี่เลนขึ้นเขา รถไฟความเร็วสูง และอาคารสำหรับแข่งขันกีฬาที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งถ้าไม่ต้องสร้างสิ่งเหล่านี้ ค่าใช้จ่ายสำหรับจัดงานจริงๆ ก็จะไม่มากนัก
อาจารย์ Lisa บอกไว้ว่า ถ้าประเทศเจ้าภาพวางแผนไว้ดี ก็จะไม่มีปัญหาทางการเงินตามมาในภายหลัง ด้วยเหตุนี้ จึงคิดว่าเป็นภาระหน้าที่ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ที่ควรเลือกประเทศหรือเมืองเจ้าภาพที่มีแผนที่ดี มีความรับผิดชอบ และให้ความเห็นว่า คณะกรรมการโอลิมปิกสากลจะต้องพิจารณาปัจจัยที่ทำให้เกิดคอรัปชั่นได้อย่างพินิจพิเคราะห์ ปัจจัยทางด้านคุณภาพชีวิต และทำความเข้าใจบริบทให้ได้จริงๆ แม้ประเทศนั้นๆ อาจจะบอกว่า ‘เราทำได้’ ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม อาจารย์ Lisa ไม่เชื่อว่า การให้ Sochi เป็นเจ้าภาพจัดกีฬา Olympics ฤดูหนาวครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ IOC และว่า ไม่เคยเห็นเมืองที่ไม่มีแหล่งเล่นสกี อย่าง Sochi ได้เป็นเจ้าภาพจัด Olympics ฤดูหนาวมาก่อนหน้านี้เลย