ประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบาม่า (Barack Obama) กล่าวปราศรัยในการแถลงแสดงนโยบายสหรัฐหรือ State of The Union เมื่อคืนวันที่ 28 ม.ค ตามเวลาในสหรัฐว่า วิธีทางการฑูตและมาตรการลงโทษที่เข้มงวด ได้ประสบผลสำเร็จในการหยุดยั้งอิหร่านไม่ให้เดินหน้าตามโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ปธน.โอบาม่าให้สัญญาว่าจะวีโต้ร่างกม.ทุกอย่างที่จะนำไปสู่การกำหนดมาตรการลงโทษอิหร่าน และอาจทำให้การเจรจากับอิหร่านหยุดชะงักหรือหันเหไปจากแนวทางที่วางไว้ และว่าหากอดีตปธน. John F. Kennedy และอดีตปธน. Ronald Reagan สามารถเจรจาต่อรองกับประเทศที่มีอำนาจอย่างสหภาพโซเวียตได้ อเมริกาในปัจจุบันก็น่าจะสามารถเจรจาต่อรองกับประเทศที่มีอำนาจน้อยกว่าสหภาพโซเวียตได้เช่นกัน
ปธน.โอบาม่าระบุว่าความพยายามทางการฑูตของรัฐบาลสหรัฐในการป้องกันไม่ให้วัตถุทางนิวเคลียร์ตกไปอยู่ในมือของผู้ก่อการร้าย ตลอดจนการกำจัดคลังอาวุธเคมีในซีเรีย ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการย้ายออกจากสิ่งที่เรียกว่าการเข้าร่วมทำสงครามอย่างถาวร
ปธน.โอบาม่ากล่าวว่าในฐานะที่ตนเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ตนได้สั่งการให้ใช้กำลังทหารก็ต่อเมื่อต้องการปกป้องพลเมืองอเมริกัน และตนจะไม่ลังเลที่จะทำเช่นนั้นตราบเท่าที่ตนยังอยู่ในตำแหน่งนี้ แต่ตนจะไม่ส่งทหารเข้าร่วมในสงครามที่ไม่มีจุดสิ้นสุด แต่จะร่วมในสงครามที่จำเป็นเท่านั้น
ปธน.โอบาม่าระบุด้วยว่า ขณะนี้สหรัฐเตรียมพร้อมที่จะคงกำลังทหารไว้ในอัฟกานิสถาน เพื่อช่วยในการฝึกฝนกำลังทหารอัฟกานิสถานในการกำจัดกลุ่มอัลไคยด้าให้หมดสิ้น นอกจากนี้ ปธน.โอบาม่ายังได้ขอให้รัฐสภาสหรัฐผ่านร่างกม.ที่จะนำไปสู่กี่ปิดเรือนจำที่อ่าวกวนตานาโม
ในการปราศรัย State of The Union ครั้งนี้ ปธน.โอบาม่า ยังได้กล่าวถึงประเด็นด้านเศรษฐกิจว่า นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีที่ผู้นำภาคธุรกิจทั่วโลกต่างเห็นว่า จีนไม่ใช่ปลายทางการลงทุนอันดับหนึ่งอีกต่อไป แต่กลายเป็นอเมริกามาแทน
ปธน.โอบาม่าบอกด้วยว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้ยังช้าเกินไป คนอเมริกันจำนวนมากยังตกงาน รัฐสภาสหรัฐจึงยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ขยายโอกาสทางการศึกษา และการปฏิรูปคนเข้าเมือง
ส่วนในฝ่ายของพรรครีพับลิกันก็มีคำแถลงตอบสนองต่อการปราศรัย State of The Union ของปธน.โอบาม่า โดย ส.ว Cathy McMorris Rodgers กล่าวว่าปัจจุบันยังมีคนอเมริกันจำนวนมากที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เนื่องจากนโยบายเศรษฐกิจของปธน.โอบาม่า
รายงานจากห้องข่าววีโอเอ / เรียบเรียงโดย ทรงพจน์ สุภาผล
ปธน.โอบาม่าให้สัญญาว่าจะวีโต้ร่างกม.ทุกอย่างที่จะนำไปสู่การกำหนดมาตรการลงโทษอิหร่าน และอาจทำให้การเจรจากับอิหร่านหยุดชะงักหรือหันเหไปจากแนวทางที่วางไว้ และว่าหากอดีตปธน. John F. Kennedy และอดีตปธน. Ronald Reagan สามารถเจรจาต่อรองกับประเทศที่มีอำนาจอย่างสหภาพโซเวียตได้ อเมริกาในปัจจุบันก็น่าจะสามารถเจรจาต่อรองกับประเทศที่มีอำนาจน้อยกว่าสหภาพโซเวียตได้เช่นกัน
ปธน.โอบาม่าระบุว่าความพยายามทางการฑูตของรัฐบาลสหรัฐในการป้องกันไม่ให้วัตถุทางนิวเคลียร์ตกไปอยู่ในมือของผู้ก่อการร้าย ตลอดจนการกำจัดคลังอาวุธเคมีในซีเรีย ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการย้ายออกจากสิ่งที่เรียกว่าการเข้าร่วมทำสงครามอย่างถาวร
ปธน.โอบาม่ากล่าวว่าในฐานะที่ตนเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ตนได้สั่งการให้ใช้กำลังทหารก็ต่อเมื่อต้องการปกป้องพลเมืองอเมริกัน และตนจะไม่ลังเลที่จะทำเช่นนั้นตราบเท่าที่ตนยังอยู่ในตำแหน่งนี้ แต่ตนจะไม่ส่งทหารเข้าร่วมในสงครามที่ไม่มีจุดสิ้นสุด แต่จะร่วมในสงครามที่จำเป็นเท่านั้น
ปธน.โอบาม่าระบุด้วยว่า ขณะนี้สหรัฐเตรียมพร้อมที่จะคงกำลังทหารไว้ในอัฟกานิสถาน เพื่อช่วยในการฝึกฝนกำลังทหารอัฟกานิสถานในการกำจัดกลุ่มอัลไคยด้าให้หมดสิ้น นอกจากนี้ ปธน.โอบาม่ายังได้ขอให้รัฐสภาสหรัฐผ่านร่างกม.ที่จะนำไปสู่กี่ปิดเรือนจำที่อ่าวกวนตานาโม
ในการปราศรัย State of The Union ครั้งนี้ ปธน.โอบาม่า ยังได้กล่าวถึงประเด็นด้านเศรษฐกิจว่า นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีที่ผู้นำภาคธุรกิจทั่วโลกต่างเห็นว่า จีนไม่ใช่ปลายทางการลงทุนอันดับหนึ่งอีกต่อไป แต่กลายเป็นอเมริกามาแทน
ปธน.โอบาม่าบอกด้วยว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้ยังช้าเกินไป คนอเมริกันจำนวนมากยังตกงาน รัฐสภาสหรัฐจึงยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ขยายโอกาสทางการศึกษา และการปฏิรูปคนเข้าเมือง
ส่วนในฝ่ายของพรรครีพับลิกันก็มีคำแถลงตอบสนองต่อการปราศรัย State of The Union ของปธน.โอบาม่า โดย ส.ว Cathy McMorris Rodgers กล่าวว่าปัจจุบันยังมีคนอเมริกันจำนวนมากที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เนื่องจากนโยบายเศรษฐกิจของปธน.โอบาม่า
รายงานจากห้องข่าววีโอเอ / เรียบเรียงโดย ทรงพจน์ สุภาผล
