การที่นานาประเทศในยุโรปหันมาพึ่งพาทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากนอร์เวย์มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้แห่งพลังงานของประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวียนี้ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีแล้ว ตามรายงานของรอยเตอร์ที่อ้างความเห็นของตัวแทนผู้ดูแลหน่วยงานแห่งหนึ่งที่รับผิดชอบงานด้านความปลอดภัยในวันจันทร์
ในเวลานี้ นอร์เวย์แซงหน้ารัสเซียขึ้นมาเป็นผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของยุโรปแล้ว ขณะที่ การที่กองทัพมอสโกยังคงเดินหน้ารุกรานยูเครนกระทบสถานะผู้จำหน่ายพลังงานอันดับหนึ่งที่ดำเนินมานานหลายทศวรรษของตน ทั้งยังดันให้ราคาพลังงานพุ่งสูงด้วย
ลาร์ส คริสเตียน อามอดท์ ผู้บริหารของ National Security Authority ของนอร์เวย์ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่ยุโรปหันมาพึ่งพาแหล่งพลังงานของนอร์เวย์มากขึ้น และชี้ว่า สถานการณ์ที่ว่าอาจยิ่งยกระดับขึ้นหากความขัดแย้งในตะวันออกกลางรุนแรงขึ้นจนกระทบตลาดปิโตรเลียม
ขณะเดียวกัน หน่วยงานด้านข่าวกรองทางทหารของนอร์เวย์ (E-service) ระบุในรายงานของตนว่า ภายใต้รูปการณ์ในเวลานี้ แหล่งผลิตน้ำมันและก๊าซของนอร์เวย์อาจมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับ “อุบัติเหตุ การก่อวินาศกรรม และการโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลทำลายล้างได้”
ส่วน เบอาเต กันกาส ผู้บัญชาการตำรวจของนอร์ย์ บอกกับรอยเตอร์ว่า เหตุการณ์ความเสียหายที่เกิดกับท่อส่งก๊าซและสายเคเบิลโทรคมนาคมใต้ทะเลที่เชื่อมต่อฟินแลนด์และเอสโตเนียเมื่อเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว เป็น “การเปิดหูเปิดตา” เกี่ยวกับความเสี่ยงของการก่อวินาศกรรมเป็นอย่างดี และทำให้ “หลายฝ่ายเริ่มตระหนัก” ว่าเหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต แม้แต่กับนอร์เวย์
ในเหตุการณ์ดังกล่าว ตำรวจฟินแลนด์กล่าวว่า เรือขนส่งสัญชาติจีนที่ชื่อ NewNew Polar Bear คือ ผู้ก่อเหตุ ด้วยการลากสมอเรือที่ก้นทะเล แต่ยังไม่ได้มีการสรุปการสืบสวนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุหรือการจงใจ
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น