กองทัพเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีเหนือยิงจรวดรอบใหม่ในช่วงเช้าวันศุกร์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นการตอบโต้การซ้อมรบร่วมกันระหว่างกองทัพสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้
ผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วมของเกาหลีใต้ มีแถลงการณ์ว่า เกาหลีเหนือได้ยิงจรวด 'ไม่ระบุประเภท' สองลูก ออกจากจังหวัดกางวอน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาหลีเหนือ ซึ่งลอยไปไกล 230 กม. และเหนือพื้นดินราว 30,000 เมตร
ขณะนี้เกาหลีใต้กำลังจับตามองอย่างใกล้ชิดว่าจะมีการยิงจรวดเพิ่มอีกหรือไม่
เกาหลีเหนือได้ยิงจรวดไปแล้ว 6 ครั้งในช่วง 3 สัปดาห์มานี้ เพื่อกดดันรัฐบาลกรุงวอชิงตันและกรุงโซลที่ต้องการเดินหน้าเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือเตือนสหรัฐฯ และเกาหลีใต้หลายครั้งว่าให้ยกเลิกการซ้อมรบที่กรุงเปียงยางบอกว่าเป็นการยั่วยุและข่มขู่ และไม่ช่วยให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีดีขึ้น โดยการซ้อมรบดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 20 สิงหาคมนี้
ปัจจุบัน เกาหลีเหนือถูกสั่งห้ามทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับจรวดและขีปนาวุธทุกประเภท ตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ แต่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ตนไม่มีปัญหาหากเกาหลีเหนือจะทดสอบขีปนาวุธ เพราะยังไงก็มาไม่ถึงสหรัฐฯ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปธน.ทรัมป์ เปิดเผยว่า ผู้นำคิม จอง อึน ได้ขอโทษต่อตนเรื่องการยิงจรวด พร้อมทบอกว่าจะหยุดยิงทันทีเมื่อการซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้เสร็จสิ้น
ผู้นำสหรัฐฯ ยังบอกด้วยว่า ตนไม่ชื่นชอบการซ้อมรบของสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้เท่าไร เพราะไร้สาระและมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ที่ยอมลงนามให้มีการซ้อมรบก็เพราะเป็นการช่วยให้เกาหลีใต้เตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายโอนความรับผิดชอบบางอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งตนต้องการให้เป็นเช่นนั้น
ขณะเดียวกัน เมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มูน แจ-อิน ได้กล่าวว่าจะทำงานร่วมกับเกาหลีเหนือเพื่อให้เกิดการรวมประเทศให้ได้ภายในปี ค.ศ. 2045 และบอกว่าหากสามารถรวมสองเกาหลีได้จริง จะเกิดเป็นมหาอำนาจใหม่ในเอเชียที่สามารถเอาชนะญี่ปุ่นในทางเศรษฐกิจได้
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเกาหลีเหนือจะไม่คล้อยตามคำพูดของผู้นำเกาหลีใต้ โดยบอกว่าเป็นคำพูดที่เหลวไหลและน่าขันถึงขนาดที่ว่า "หัววัวที่ต้มสุกแล้วยังลุกขึ้นมาขำจนของเสียเล็ดออกมาได้"