ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน เดินทางเยือนจีนในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นการเยือนจีนครั้งที่ 4 ในช่วงไม่ถึง 1 ปี และเกิดขึ้นในช่วงที่กำลังมีการพูดถึงการประชุมสุดยอดครั้งที่สองระหว่างผู้นำคิม กับประธานาธิบดีทรัมป์
ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน และประธานาธิบดีจีน สี จินผิง พบเจรจาครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว โดยได้ตกลงกันว่าจะเพิ่มการสื่อสารระหว่างกันมากขึ้นทั้งในเรื่องกิจการในประเทศและต่างประเทศ
ผู้นำทั้งสองคนพบกันสามครั้งเมื่อปีที่แล้ว ทั้งก่อนหน้าและหลังจากที่ผู้นำคิมได้เจรจาสุดยอดกับประธานาธิบดีทรัมป์ที่สิงคโปร์
ศาตราจารย์ ซือ อินฮง (Shi Yinhong) นักวิเคราะห์จากมหาวิทยาลัย Renmin ในกรุงปักกิ่ง ระบุว่า สิ่งที่ผู้นำคิมต้องการจากจีน คือการเพิ่มความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ และการขอให้จีนช่วยโน้มน้าวให้สหประชาชาติลดมาตรการลงโทษที่ใช้กับเกาหลีเหนือ
และในการเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเป็นครั้งที่สี่ในรอบหนึ่งปี นักวิเคราะห์ผู้นี้เชื่อว่า ผู้นำคิมจะพยายามขอคำรับรองจากประธานาธิบดีสีว่า หากการเจรจาครั้งที่สองกับประธานาธิบดีทรัมป์ล้มเหลว เกาหลีเหนือจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากกรุงปักกิ่งเช่นเดิม
ในการแถลงข่าวในวันอังคาร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนสนับสนุนการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ ตลอดมา และต้องการให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการเจรจาดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ บทความที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Global Times ของทางการจีน อ้างอิงความเห็นของนักวิเคราะห์ที่ว่า ปี ค.ศ. 2019 จะเป็นปีแห่งการเจริญเติบโตของเกาหลีเหนือ โดยเทียบกับการเปิดประเทศของจีนเมื่อปี ค.ศ. 1979 ซึ่งนำไปสู่การปฏิรูปและการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในเวลาต่อมา
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ขณะนี้เกาหลีเหนือกำลังเริ่มกระบวนการเปิดประเทศทีละน้อย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า
บทความในหนังสือพิมพ์ Global Times ยังชี้ด้วยว่า การที่ผู้นำคิม จอง อึน เยือนจีนในสัปดาห์นี้ ถือเป็นความพยายามในการเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์ และสานสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ที่น่าจับตามอง เพราะเกิดขึ้นในขณะที่ผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ และจีน กำลังเจรจากันอยู่ที่ปักกิ่ง ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าจีนอาจใช้เกาหลีเหนือเป็นไพ่ใบสำคัญในการต่อรองกับสหรัฐฯ ด้วย
คุณหู ซีจิน หัวหน้ากองบรรณาธิการของ Global Times ทวีตในวันอังคารว่า ช่วงเวลาที่ผู้นำคิมเยือนกรุงปักกิ่งสอดคล้องอย่างยิ่งกับการวางแผนเจรจาสุดยอดรอบที่สองระหว่างผู้นำคิมกับประธานาธิบดีทรัมป์
อย่างไรก็ตาม ด้านศาตราจารย์ ซือ อินฮง จากมหาวิทยาลัย Renmin ไม่เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกันโดยตรงระหว่างการเจรจาการค้าของจีนกับสหรัฐฯ และการเยือนจีนของผู้นำเกาหลีเหนือครั้งนี้
ถึงกระนั้น นักวิเคราะห์ผู้นี้ชี้ว่า การที่ผู้นำคิมเยือนจีนนั้น อาจเป็นการส่งสัญญาณให้ประธานาธิบดีทรัมป์เห็นว่า แม้จีนจะนำประเด็นเกาหลีเหนือมาเป็นเครื่องต่อรองทางการค้าไม่ได้ แต่ก็อาจนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางยุทธศาสตร์และการทูตได้เช่นกัน
(ผู้สื่อข่าว Bill Ide รายงานจากกรุงปักกิ่ง / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)