เอลานา มุกดาน (Elana Mugdan) สาวโสด ยุคใหม่ วัยมิลเลนเนียล มีทั้งภาระหนี้สิน และเพิ่งจะย้ายกลับมาอยู่กับพ่อแม่ของเธอ ที่ย่านควีนส์ นครนิวยอร์ก เธอทำงานไปด้วย ขณะที่เขียนนิยายแฟนตาซีไปด้วย และแม้ว่าเธอจะมีสภาพการเงินที่ย่ำแย่ แต่ก็หวังว่าสักวันหนึ่งจะสามารถช่วยบริจาคเงินเพื่อองค์กรการกุศลที่กำลังต่อสู้กับปัญหาโลกร้อนได้
แต่ถ้าเธอสามารถงดใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้อีกเพียง 4 เดือนเธอจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 100,000 ดอลล่าร์จาก Coca-Cola Co. ทางบริษัทยอมรับว่าเป็นโครงการรณรงค์ที่ช่วยโฆษณาบริษัทได้อย่างคุ้มค่า
เรื่องราวของเธอถูกตีพิมพ์ในบทความของสื่อ MarketWatch เอลานา บอกว่าเธอต้องถูกทดสอบด้วยเครื่องจับโกหก และด้วยความที่เธอเป็นคนขี้กังวลมาก ดังนั้นเธอจึงปฏิบัติตามกฎอย่างเข้มงวด
เมื่อฤดูหนาวที่แล้ว เอลานาชนะการประกวดและได้เข้าร่วมแข่งขัน “No Phone for A Year” ที่จัดขึ้นโดยบริษัท Vitaminwater ในเครือ Coca-Cola เธอตกลงที่จะงดใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ที่คล้ายกันเช่นแท็ปเล็ตเป็นเวลา 1 ปี โดยใช้แต่โทรศัพท์รุ่นเก่าหรือที่เรียกว่า flip phone เท่านั้น
เธอกล่าวว่าการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ตอนนี้ผ่านไปสองในสามของการแข่งขันแล้ว เธอหวังจะได้เงินรางวัลก้อนใหญ่ ตอนนี้เธอสามารถ “ล้างสารพิษสมาร์ทโฟน” ออกจากตัวจนหมดจด และไม่ต้องการใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนอีกแล้ว
เอลานา บอกอีกว่าสิ่งที่ท้าทายที่สุดในการแข่งขันก็คือ การที่คนอื่นๆ มักจะยื่นโทรศัพท์มาที่เธอ หรือนำโทรศัพท์ออกมาให้เห็นอยู่เสมอ
ตอนนี้ เอลานา ตัดสินใจแล้วว่า เธอจะไม่กลับไปใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนอีกหลังจากที่ครบ 1 ปี เธอบอกว่าการที่ไม่มีโทรศัพท์ใช้ช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 125% เฉพาะในปีนี้เธออ่านอ่านหนังสือได้ 30 กว่าเล่ม เธอมีความสุขมากขึ้น และตารางการนอนหลับของเธอก็ดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้เธอยังพยายามที่จะซ่อมแซมความสัมพันธ์บางอย่างที่เคยละทิ้งไป โดยพยายามเชื่อมต่อกับผู้คนอีกครั้ง
เมื่อเธอย้อนมองกลับไปในช่วงเวลาที่ยังใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ก็รู้สึกว่าสูญเสียเวลาไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย และเธอไม่มีวันที่จะทราบเลยว่าตัวเองติดสมาร์ทโฟนรุนแรงมากแค่ไหน จนถึงวันที่ต้องเลิกใช้ ถึงได้ทราบว่าใช้สมาร์ทโฟนไปในทางที่ผิดๆ
เอลานา ดูโทรศัพท์ตลอดทั้งวัน วางโทรศัพท์ไว้ข้างเตียงนอนในเวลากลางคืน และมีบางครั้งที่นอนไม่หลับ เธอก็จะเล่นโทรศัพท์จนถึงตีสี่ ซึ่งเธอไม่ใช่คนเดียวที่มีพฤติกรรมแบบนั้น ปัจจุบันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ติดโทรศัพท์สมาร์ทโฟนกันมากขึ้นๆ นักวิทยาศาสตร์ต่างมีความกังวลในเรื่องสังคมและสภาพจิตใจ แม้แต่ ทิม คุ้ก ซีอีโอของบริษัท Apple ก็ยังยอมรับว่าเขาใช้เวลากับโทรศัพท์ iPhone ของเขามากเกินไป
ในเวลาเพียงไม่ถึง 13 ปีตั้งแต่ Steve Jobs เปิดตัว iPhone เครื่องแรก ตอนนี้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนฝังแน่นอยู่ในชีวิตของคนเราไปแล้วเมื่อ เอลานา มุกดาน บอกว่าเธอได้ทิ้งโทรศัพท์สมาร์ทโฟนไปแล้ว ทุกคนต่างก็ตกตะลึง บ้างก็บอกว่าไม่สามารถทำอย่าง Elana ได้ แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นตนหวังว่าจะทำเช่นเดียวกับ เอลานา ได้
อย่างไรก็ตาม เอลานา ยังคงเช็คอีเมลและ Facebook เป็นระยะๆ บนคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปของเธอเท่านั้น เวลาที่ออกไปข้างนอกจะเห็นผู้คนจับตามองโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อคอยเช็คการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่ในขณะที่อยู่ในร้านอาหารหรือร้านกาแฟกับคนอื่นๆ
เธอบอกว่าอีเมลและการแจ้งเตือนต่างๆ นั้น จะยังคงอยู่ไม่หายไปไหนจนกว่าจะเข้าไปเช็คในภายหลัง แต่ถ้าหากพลาดช่วงเวลาในโลกแห่งความเป็นจริง สิ่งนั้นจะหายไปตลอดกาล