ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทางเดินเลียบชายหาด Promenade des Anglais ค่อนข้างจะเงียบเหงา แม้จะมีผู้คนออกมาร่วมไว้อาลัยแก่เหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุชายมุสลิมคนหนึ่งขับรถบรรทุกไล่ชนผู้คน
ตลอดระยะทาง 2 กิโลเมตรของทางเดินที่เกิดเหตุมีผู้คนนำดอกไม้ คำไว้อาลัยหรือไม่ก็เทียนไปวางไว้เป็นจุดๆ
และเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น มีกลุ่มอนุรักษ์นิยมขวาจัดออกมารวมตัวกันประท้วงใกล้กับจุดไว้อาลัยจุดหลักของทางเดินเลียบชายหาด ทำลายความเงียบสงัดลงไปชั่วครู่ แม้กลุ่มผู้ประท้วงจะมีกันไม่กี่คน แต่กลับเป็นสาเหตุให้ผู้คนหลายสิบคนเริ่มตะโกนทะเลาะกันเสียงดังไปทั่วบริเวณ
กลุ่มผู้ประท้วงยืนอยู่อย่างเงียบๆ และถือป้ายเรียกร้องให้รัฐบาลติดอาวุธให้แก่ประชาชนซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่ากลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอนุรักษ์นิยมขวาจัด ที่เริ่มขยายตัวมากขึ้นในฝรั่งเศส และสร้างกระแสต่อต้านชาวมุสลิมหลังเกิดเหตุก่อการร้ายหลายครั้งที่ผ่านมาในประเทศ
หลายคนมองการประท้วงกลุ่มเล็กๆ นี้ว่า เป็นสัญญาณที่แสดงว่าเกิดความแตกแยกเป็นฝักฝ่ายขึ้นในเมืองนีซและในโลก
คุณ Sylvin Henrick ชาวหนุ่มคนหนึ่งบอกว่า ความแตกแยกระหว่างชุมชนชาวมุสลิมกับคนกลุ่มอื่นๆ ในเมือง อาจจะมีผลกระทบที่ใหญ่หลวง เขากล่าวว่ารัฐบาลกำลังพยายามกระตุ้นให้คนทั่วไปต่อต้านคนมุสลิม ซึ่งยิ่งจะทำให้เกิดความแตกแยกมากขึ้นไปอีก
ประมาณว่าราว 40 เปอร์เซ็นต์ของชาวเมืองนีซเป็นคนมุสลิม ในขณะที่ราว 8 เปอร์เซ็นต์ของคนในฝรั่งเศสทั้งหมด เป็นคนมุสลิม และกลุ่มคนอพยพโยกย้ายถิ่นกลุ่มใหญ่ล่าสุดในเมืองนีซคือชาวตูนีเซีย
Marie Sophie Hett นางพยาบาลเกษียณอายุกล่าวย้ำความรู้สึกของผู้นำกลุ่มประท้วง ที่วิจารณ์ว่าการรักษาความปลอดภัยในวันเกิดเหตุหย่อนยานมาก ขณะที่ฝูงชนกำลังฉลองวัน Bastille Day ด้วยการชมดอกไม้ไฟ นาย Mohamad Bouhlel อายุ 31 ปีจากตูนีเซียสามารถขับรถบรรทุกไล่ชนผู้คนบนทางเดินเลียบชายหาดได้ ทั้งๆ ที่มีด่านกั้นการจราจรกีดขวางอยู่
และคุณ Hett พูดเป็นเสียงเดียวกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมขวาจัด ที่กล่าวโทษว่าคนมุสลิมซึ่งเป็นประชาชนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งในเมืองนีซ เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ร้ายนี้
อีกส่วนหนึ่งของเมืองในชุมชนผู้อพยพย้ายถิ่นชาวต่างชาติ ประชาชนชาวมุสลิมในชุมชนบอกว่า รู้สึกว่าถูกชาวฝรั่งเศสในท้องถิ่นกีดกันออกจากสังคมหลังเกิดเหตุก่อการร้าย และทุกครั้งที่เกิดเหตุก่อการร้าย ความรู้สึกถูกแบ่งแยกนี้จะเลวร้ายกว่าเดิม
ในช่วงหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา เหตุก่อการร้ายหลายครั้งในฝรั่งเศสทำให้คนเสียชีวิตแล้ว 240 คน และบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน
นายอิบบราฮิม อายุ 29 ปี ชาวตูนีเซียอีกคนหนึ่ผู้อาศัยในฝรั่งเศสมานาน 15 ปี กล่าวว่าเหยื่อที่เสียชีวิตบางคนเป็นชาวมุสลิมและชาวตูนีเซีย ศาสนาอิสลามต่อต้านการก่อการร้าย เขาบอกว่าผู้ก่อการร้ายครั้งนี้ไม่ได้เป็นชาวมุสลิมที่ดี เพราะเป็นหัวขโมยและนักเลงชกต่อย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวคนอีกหลายคนที่รู้จักกับผู้ก่อการเพื่อสอบปากคำในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเขาอาจจะก่อการโดยลำพัง
บรรดานักการเมืองต่างใช้ความรู้สึกต่อต้านชาวมุสลิมในการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในยุโรปและในสหรัฐฯ
การเลือกตั้งปี 2017 ในฝรั่งเศสใกล้เข้ามา Marine Le Pen ผู้นำพรรค National Front ที่ต่อต้านผู้อพยพย้ายถิ่นและต่อต้านชาวมุสลิม ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะคนในประเทศเกิดความหวาดระแวงต่อชาวมุสลิมมากขึ้น ในห้วงที่เกิดวิกฤติปัญหาผู้อพยพในยุโรป
นาง Le Pen กล่าวว่าต้องเร่งประกาศสงครามต่อต้านกลุ่มมุสลิมสุดโต่งอย่างเร่งด่วน
ด้านนาย Bahati Nkera อายุ 20 ปี นักศึกษาชาวอเมริกันเชื้อสายคองโกที่ไปร่วมไว้อาลัยในจุดเกิดเหตุ กล่าวว่าไม่แปลกใจที่ได้เห็นนักการเมืองฉวยโอกาสหลังเกิดเหตุร้ายเพื่อหาเสียงทางการเมือง
แต่เขากล่าวว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าที่นักการเมืองทำเช่นนี้ต่อหน้าจุดไว้อาลัยที่มีเด็กๆ เสียชีวิตหลายคนในเหตุการณ์ร้ายครั้งนี้
(รายงานโดย Heather Murdock / เรียบเรียงโดย ทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)