มีบทความที่น่าสนใจของ The New York Times ที่พาดหัวว่า Down and Out in San Francisco, on $117,000 a Year มาจากข่าวที่ว่า ระดับรายได้ต่อครัวเรือนที่ 117,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือราว 3.9 ล้านบาทต่อปี จัดเป็นผู้มีรายได้น้อยในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย
ปัจจุบัน ซานฟรานซิสโก ครองแชมป์เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในสหรัฐฯ คือ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศถึงร้อยละ 62 ตามข้อมูลของ Council for Community and Economic Research ที่บอกว่า ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ หมดไปกับค่าเช่าที่อยู่อาศัย เฉลี่ย 2,000-3,000 ดอลลาร์ หรือราว 66,000-99,000 บาทต่อเดือน
ทำให้คำในข่าวสัปดาห์นี้ ขอว่าด้วยกลุ่มคำที่เกี่ยวข้องกับความยากดีมีจนมาฝากกัน
เริ่มจากระดับพออยู่แบบสบายๆ ไม่เดือดร้อน เรามักใช้คำว่า comfortable ที่หมายถึง พออยู่ได้ แต่นัยยะหนึ่งกลุ่มที่ใช้ประโยคที่ว่านี้ มักจะเป็นคนที่มีรายได้เกินกว่าพออยู่พอกิน แต่เป็นคำพูดเชิงถ่อมตัว
ส่วนกลุ่มต่อมา คือ รายได้เดือนชนเดือน จะใช้ภาษาอังกฤษว่า make ends meet
ต่อมาที่ความลำบากขึ้นเรื่อยๆ อย่าง meager income หรือ คนที่มีรายได้น้อยนิด ที่อาจจะเล่นมุกขำๆว่า หลักเงินเดือนยังยาวน้อยกว่ารหัสบัตรเอทีเอ็ม เป็นต้น
เข้าสู่ภาวะ “ไม่มีเงิน” ซึ่งเราใช้คำว่า down and out หรือ penniless ที่แปลว่าไม่มีเงินแม้แต่แดงเดียวก็ได้
ส่วนกลุ่มคำที่อยู่ในเกณฑ์ยากจน ก็มีทั้ง poor, destitute
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่หนี้สินล้นพ้นตัว ซึ่งสามารถใช้คำว่า broke หรือถังแตก in the red ที่หมายถึง มีภาระหนี้มากกว่ารายได้ และลามไปถึง insolvent หรือ ภาวะจ่ายหนี้ไม่ไหว และอาจถึงขั้น dirt poor ที่หมายถึงยากจนข้นแค้นก็ได้