พาดหัวข่าวของวีโอเอ ระบุว่า Long-Anticipated 'Travel-Bubble' Opens Between Australia and New Zealand หมายความว่า ‘ฟองอากาศด้านการเดินทาง’ ระหว่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ที่รอคอยมาแสนนาน ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ข่าวนี้เล่าถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ที่เริ่มต้นฟองอากาศด้านการเดินทางระหว่างกันในวันจันทร์ (19 เมษายน) ที่เปิดให้ชาวออสเตรเลียและนิวซีแลนด์สามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวสังเกตอาการโควิด-19 โดยผู้ที่จะเข้าข่ายเดินทางภายใต้นโยบายใหม่นี้ได้นั้น ต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบในช่วง 14 วันก่อนหน้าการเดินทาง
สำหรับบรรยากาศวันแรกที่เริ่มต้นฟองอากาศด้านการเดินทาง ที่ประชากรของสองประเทศจะสามารถเดินทางไปมาระหว่างกันได้โดยที่ไม่ต้องผ่านการกักตัวนี้ อาคารเที่ยวบินขาเข้าของสนามบินนานาชาติเวลลิงตัน ของนิวซีแลนด์ ประดับตกแต่งข้อความต้อนรับกลับนิวซีแลนด์ในอาคารผู้โดยสาร และบรรยากาศเต็มไปด้วยความตื้นตัน จากที่ชาวนิวซีแลนด์ที่พำนักในออสเตรเลียได้กลับมาสวมกอดครอบครัวเพื่อนฝูงอันเป็นที่รักในแผ่นดินเกิดได้อีกครั้งในรอบกว่า 1 ปีที่โควิดระบาดหนักไปทั่วโลก
นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ กล่าวว่า วันแรกของการเดินทางระหว่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์โดยปราศจากการกักตัวนี้ เป็น “หลักชัยสำคัญ” ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจนิวซีแลนด์ได้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากที่ชาวออสเตรเลียราว 1.5 ล้านคนเดินทางมาท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ เมื่อปี 2019 คิดเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 40% ที่มาเยือนนิวซีแลนด์
ก่อนหน้านี้ บางพื้นที่ของออสเตรเลีย เปิดให้ชาวนิวซีแลนด์เข้าพื้นที่ได้โดยไม่ต้องกักตัวมาระยะหนึ่งแล้ว แต่นิวซีแลนด์ยังคงใช้มาตรการเข้มงวดกักตัวผู้เดินทางจากออสเตรเลียมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม ผู้นำออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ได้เตือนพลเมืองของแต่ละประเทศว่า ฟองอากาศด้านการเดินทางที่ให้พลเมืองของสองประเทศเดินทางไปมาระหว่างกันโดยที่ไม่ต้องผ่านการกักตัวนี้อาจยุติลงได้ หากพบการระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้น
ทั้งนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัส โควิด-19 จากการปิดพรมแดนเข้าประเทศทันทีที่โควิด-19 กลายเป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก และบังคับใช้มาตรการกักตัวนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศอย่างเคร่งครัด
ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ระบุว่า ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 29,533 คน เสียชีวิต 910 คน ส่วนนิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อ 2,596 คน และเสียชีวิต 26 คนเท่านั้น จนกลายเป็นแบบอย่างในการรับมือโควิด-19 ในสายตานานาประเทศ
คำในข่าวสัปดาห์นี้ ขอเสนอคำว่า bubble ในพาดหัวข่าว เป็นคำนาม หมายถึง ฟองอากาศ ที่ปกป้องเฉพาะสองคู่ตกลง ไม่เกี่ยวกับประเทศนอกความร่วมมือ แสดงให้เห็นถึงความปลอดภัย
แต่ถ้าปกติคำว่า bubble จะแปลว่า ฟองอากาศ หรือฟองสบู่ ตัวอย่างเช่น
The bathtub will be full of bubbles in a few minutes just in in time when she gets back from the gym.
หมายความว่า อ่างน้ำนี้จะเต็มไปด้วยฟองสบู่ฟูฟ่องในอีกไม่กี่นาที พอดีกับเวลาที่เธอกลับมาจากยิมเลยล่ะ
ส่วนประโยคที่ว่า ฟองสบู่เเตก ในภาษาไทย เมื่อพูดถึงเศรษฐกิจ ยังเเปลเป็นภาษาอังกฤษได้ ตามตัวอย่างนี้
The property prices continue to grow rapidly until the bubble bursts.
หมายความว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง จนกระทั่งเกิดภาวะฟองสบู่แตก
คำว่า bubble ยังมีความหมายเชิงอุปมาอุปมัย ได้ด้วยว่า สิ่งเเวดล้อมแบบปิดที่มีวิสัยทัศน์จำกัด ตัวอย่างเช่น
He has lived in a bubble of wealth and privileges until he worked with a social enterprise group in Southeast Asia.
หมายความว่า เขาใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมของคนมั่งคั่งและมีสิทธิพิเศษเหนือผู้อื่น จนกระทั่งเขาได้มาทำงานด้านกิจการเพื่อสังคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ต่อที่คำว่า bubble ที่เป็นกริยา อาจเเปลได้ว่า เอ่อล้น ท่วมท้น มาดูตัวอย่างนี้กัน
Kimberly's emotion bubbles up as the author reads out the poetry at the book event.
หมายความว่า ความรู้สึกของคิมเบอร์ลีเอ่อล้นออกมา ระหว่างที่นักเขียนเริ่มอ่านบทกวีในงานเปิดตัวหนังสือ
ส่วนคำว่า bubbly เป็นคุณศัพท์ แปลได้ว่า มีฟอง ใช้กับเครื่องดื่ม หรือใช้กับคนที่มีบุคลิกสดใสส่งพลังน่าตื่นเต้น ตัวอย่างเช่น
Dr. Frank met his future bride at a friend's wedding and got smitten with her bubbly personality.
หมายความว่า ดร.แฟรงค์ได้พบกับเจ้าสาวในอนาคตของเขาที่งานแต่งงานของเพื่อน และหลงรักบุคลิกสดใสร่าเริงของเธอ
ส่งท้ายคำในข่าววันนี้ ด้วยคำคมจากโอลิเวอร์ เวนเดลล์ โฮล์มส์ (Oliver Wendell Holmes) ซึ่งเคยกล่าวเอาไว้ว่า
Truth is tough. It will not break, like a bubble, at a touch; nay, you may kick it about all day like a football, and it will be round and full at evening.
หมายความว่า ความจริงเป็นสิ่งที่แข็งแกร่ง มันไม่เคยแตกหักสลายไปเหมือนฟองสบู่เมื่อถูกสัมผัส และแม้จะถูกเตะไปมาทั้งวันเหมือนลูกฟุตบอล สุดท้ายมันก็จะกลับมากลมเป็นลูกบอลเต็มแน่นแบบเดิมอีกครั้งในตอนสิ้นวันอยู่ดี