กองทัพรัสเซียระดมยิงจรวดใส่เขตแนวหน้าในแคว้นดอนบาสทางภาคตะวันออกของยูเครน ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน บาดเจ็บราว 20 คน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยูเครน
เจ้าหน้าที่ในกรุงเคียฟรายงานว่า กองทัพรัสเซียใช้เครื่องยิงจรวดต่อต้านอากาศยาน เอส-300 ยิงใส่เมืองในยูเครน โดยมุ่งเป้าไปที่ศูนย์ช่วยเหลือบุคคลไร้บ้าน ที่ซึ่งชาวยูเครนหลายคนใช้เป็นสถานที่พักพิงชั่วคราว รวมถึงหาอาหารประทังชีพและชาร์จโทรศัพท์มือถือ
ที่เมืองบิโลพิลเลีย ในจังหวัดซูมี ชาวยูเครน 2 คนเสียชีวิตและ 9 คนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีด้วยจรวดและปืนใหญ่ของรัสเซีย ส่วนที่เมืองเคอร์ซอนทางภาคใต้ มีผู้เสียชีวิต 1 รายจากปืนใหญ่ของรัสเซีย
เมื่อวันพฤหัสบดี ยูเครนเผยแผนเตรียมการโจมตีเพื่อรุกกลับรัสเซียในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยระบุว่าความพยายามของมอสโกในการยึดเมืองบาคห์มุตเริ่มอ่อนแรงลง ขณะที่กองกำลังกรุงเคียฟกำลังรอความช่วยเหลือทางทหารรอบใหม่จากสหภาพยุโรป
ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย และรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย กล่าวว่า กองทัพรัสเซียพร้อมแล้วสำหรับการตอบโต้ปฏิบัติการรุกกลับของยูเครน พร้อมขู่ว่า หากยูเครนพยายามยึดแคว้นไครเมียกลับคืน รัสเซียอาจตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ และขอให้ "พันธมิตร" ของยูเครน โดยเฉพาะสหรัฐฯ รับทราบเรื่องนี้ไว้
เมดเวเดฟยังได้เตือนด้วยว่า อาจมีการโจมตีระบบป้องกันขีปนาวุธที่ชาติตะวันตกมอบให้แก่กองทัพยูเครน เช่น ระบบแพทริออตของสหรัฐฯ หากอาวุธเหล่านั้นถูกส่งไปให้แก่ยูเครนโดยมีผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเข้าไปร่วมฝึกฝนทหารยูเครนให้ใช้อาวุธดังกล่าวด้วย
แต่ทางรัฐบาลกรุงเคียฟปฏิเสธว่า ไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น โดยทหารยูเครนทุกคนได้รับการฝึกฝนให้ใช้อาวุธเหล่านั้นในสหรัฐฯ หรือประเทศอื่น
ทางด้านผู้บัญชาการกองทัพอากาศของสวีเดน นอร์เวย์ ฟินแลนด์ และเดนมาร์ก กล่าวในวันศุกร์ว่าได้มีการร่วมลงนามในจดหมายที่จะนำไปสู่การจัดตั้งกองกำลังป้องกันตนเองร่วมกันของกลุ่มประเทศแถบนอร์ดิก เพื่อให้เครื่องบินรบของ 4 ประเทศสามารถใช้ฐานทัพอากาศร่วมกันและของสมาชิกองค์การนาโต้ได้ เป้าหมายเพื่อป้องกันการถูกรุกรานหลังจากที่เกิดเหตุการณ์รัสเซียบุกรุกยูเครนในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา
- เนื้อหาบางส่วนจากเอพี และรอยเตอร์