สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เนเธอร์แลนด์ยังคงรับมือกับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านมาตรการปิดเมืองเพื่อสกัดกั้นการระบาดของโรคโควิด-19 ติดต่อกันเป็นคืนที่สี่ โดยร้านค้าบางแห่งนำแผ่นไม้ปิดหน้าต่าง และให้พนักงานกลับบ้านก่อนเวลาเพื่อความปลอดภัย
จนถึงคืนวันจันทร์ ตำรวจเนเธอร์แลนด์ควบคุมผู้ประท้วงแล้วกว่า 180 คน โดยผู้ประท้วงในหลายเมืองต่างจุดไฟ ปาก้อนหินและบุกเข้าร้านค้า
โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองรอตเตอร์ดัมเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเยี่ยมคนไข้ หลังผู้ก่อเหตุจลาจลพยายามโจมตีโรงพยาบาลตามเมืองต่างๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยโฆษกตำรวจระบุว่า ที่เมืองรอตเตอร์ดัม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 10 นาย มีผู้ประท้วงถูกควบคุมตัว 60 คน หลังบุกเข้าทำลายอาคารในย่านใจกลางเมือง
เมื่อเย็นวันอังคาร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายขอให้ผู้ปกครองดูแลให้บุตรหลานวัยรุ่นอยู่กับบ้าน และเตือนว่าหากพวกเขาเข้าร่วมการจลาจล อาจมีประวัติทางอาญาและต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวนมากแก่รถ ร้านค้า และทรัพย์สินสาธารณะ
ตำรวจพร้อมอุปกรณ์รับมือเหตุจลาจลเข้าประจำการในเมืองกว่าสิบเมืองทั่วประเทศ โดยหลายเมืองประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้อำนาจตำรวจเข้าตรวจค้นได้มากขึ้น
ในกรุงอัมเสตอร์ดัม กลุ่มผู้ประท้วงเยาวชนโยนดอกไม้ไฟ ทุบหน้าต่างและโจมตีรถบรรทุกตำรวจ ก่อนจะถูกตำรวจสลายการชุมนุม โดยทางตำรวจระบุว่า มีช่างภาพได้รับบาดเจ็บหลังถูกกลุ่มผู้ประท้วงขว้างก้อนหินโจมตี
ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสในเนเธอร์แลนด์ลดต่ำลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยอดผู้ติดเชื้อลดต่ำลง 8 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อวันอังคาร มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกือบ 4,000 คน ถือเป็นยอดผู้ตอิดเชื้อใหม่ต่อวันที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ประกาศใช้กฎเคอร์ฟิวเมื่อวันเสาร์ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ (National Institute for Health) ระบุว่า เชื้อโคโรนาไวรัสที่กลายพันธุ์ใหม่และแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าเดิมนั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อในประเทศราวหนึ่งในสาม และสถานการณ์การระบาดของไวรัสในประเทศยังคงถือว่าตึงเครียดเป็นอย่างมาก