นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ยอมรับในวันจันทร์ว่าไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่ได้ หลังจากชนะการเลือกตั้งแบบเฉียดฉิวเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งหมายความว่า คู่แข่งสำคัญของเขา คือ เบนนี แกนท์ซ จะได้รับสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลผสมแทน และมีโอกาสขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
เนทันยาฮู ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดของอิสราเอล กำลังพยายามจะหาทางขึ้นดำรงตำแหน่งอีกครั้งเป็นสมัยที่ 5 แต่เขาได้ออกมายอมรับกับประธานาธิบดีอิสราเอล รูเวน ริฟลิน ว่าไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมที่มีพรรคลิคุดของเขาเป็นหัวเรือใหญ่ได้
ด้านประธานาธิบดีริฟลิน กล่าวว่า เขาได้ตัดสินใจให้สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่แก่นายแกนท์ซ อดีตผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอลและหัวหน้าพรรคบลูแอนด์ไวท์ โดยจะมีเวลา 28 วันในการหาพรรคร่วมรัฐบาล
แต่หากนายแกนท์ซไม่สามารถจัดตั้งได้ภายใน 28 วัน ตามกฎหมายของอิสราเอล สมาชิกรัฐสภาคนใดคนหนึ่งจะมีสิทธิเป็นคนจัดตั้งรัฐบาลได้ภายใน 21 วันหลังจากนั้น
และหากยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้อีก ก็ต้องมีการเลือกตั้งอีกครั้งซึ่งจะเป็นรอบที่สามตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
พรรคบลูแอนด์ไวท์ของแกนท์ซซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจากชาวอาหรับและพรรคการเมืองแนวคิดเสรีนิยม ได้เสียง 33 ที่นั่งในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายน ส่วนพรรคลิคุดของเนทันยาฮูซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มชาวยิวและพรรคการเมืองแนวคิดขวาจัดได้ 32 ที่นั่ง ซึ่งล้วนไม่สามารถครองเสียงข้างมากได้ ทำให้ต้องพยายามจัดตั้งรัฐบาลผสม
ด้านนายกฯ เนทันยาฮู กล่าวว่าตนจะต่อต้านรัฐบาลที่จัดตั้งโดยแกนท์ซซึ่งรวมเอานักการเมืองชาวอาหรับเข้ามานั่งในสภา เพราะถือว่าเป็นกลุ่มสนบุสนนการก่อการร้ายและต่อต้านความเป็นอิสราเอล