เกิดเหตุเครื่องบินจากสายการบินยูเอส-บังกลา แอร์ไลน์ส ของบังคลาเทศตกและเกิดเพลิงไหม้ระหว่างลงจอดที่สนามบินกาฐมาณฑุ ของเนปาล ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน
โฆษกของสายการบิน ยูเอส-บังกลา แอร์ไลน์ส ระบุว่า เที่ยวบิน BS211 ที่เกิดเหตุ มีผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งสิ้น 71 คน เป็นชาวบังกลาเทศ 32 คน จากเนปาล 33 คน และอีก 2 คนเป็นชาวจีนและมัลดีฟส์ ซึ่งขณะนี้หน่วยกู้ภัยและทีมดับเพลิงท้องถิ่น เข้าควบคุมเพลิง และช่วยเหลือผู้โดยสารกับลูกเรือไว้ได้บางส่วน
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เครื่องบินเสียการทรงตัวกลางอากาศ และพยายามลดระดับเพื่อลงจอดก่อนจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ด้านนายอิมราน อาซิฟ ซีอีโอของสายการบินยูเอส-บังกลา แอร์ไลน์ส กล่าวหาหน่วยควบคุมการบินของสนามบินกาฐมาณฑุ ส่งสัญญาณผิดพลาด จนเป็นเหตุให้เครื่องบินตก
สนามบินกาฐมาณฑุ เคยเกิดอุบัติเหตุรุนแรงบ่อยครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2535 เที่ยวบินการบินไทยจากกรุงเทพฯ ไปกาฐมาณฑุ ตกระหว่างลงจอดที่รันเวย์ คร่าชีวิตผู้โดยสารบนเครื่องทั้งหมด 113 คน และจากนั้น 2 เดือนต่อมา เครื่องบินจากสายการบิน Pakistan International Airlines ตกระหว่างลงจอดที่สนามบิน คร่าชีวิต 167 คนบนเครื่อง
เหตุการณ์ล่าสุด คือ เมื่อปี 2555 เครื่องบินเล็กจาก Sita Air ตกหลังจากชนเข้ากับนกระหว่างออกตัวจากสนามบิน ทำให้นักปีนเขา 19 ชีวิตทั้งหมด