เยอรมนีกำลังเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากพันธมิตรในยุโรปให้เปลี่ยนจุดยืนเรื่องการไม่สนับสนุนทางอาวุธให้แก่ยูเครนเพื่อช่วยให้ยูเครนเพิ่มศักยภาพในการปกป้องตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย
เมื่อวันจันทร์ อังกฤษได้จัดส่งขีปนาวุธต่อสู้รถถังให้แก่ยูเครน โดยใช้วิธีขนส่งทางเครื่องบินแต่หลีกเลี่ยงการบินผ่านน่านฟ้าของเยอรมนี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอังกฤษ เบน วอลเลซ ชี้แจงกับบรรดาสมาชิกรัฐสภาว่า จำเป็นต้องเพิ่มการสนับสนุนด้านการทหารและความช่วยเหลือด้านความมั่นคงเพิ่มเติมให้แก่ยูเครน เนื่องจากรัสเซียมีท่าทีข่มขู่คุกคามบริเวณพรมแดนด้านตะวันออกของยูเครนมากขึ้น และมีความกังวลว่ารัสเซียอาจส่งกำลังทหารบุกยูเครนจริง ๆ
ขณะเดียวกัน ทางการยูเครนเกิดความไม่พอใจต่อเยอรมนีมากขึ้นหลังจากที่เยอรมนีปฏิเสธให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน รวมทั้งกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อรัฐบาลเยอรมนีใช้สิทธิ์วีโต้ข้อตกลงซื้อปืนต่อต้านโดรนและระบบต่อต้านสไนเปอร์ระหว่างยูเครนกับหน่วยงานขององค์การนาโต้
ทางการกรุงเบอร์ลินให้เหตุผลว่า การสนับสนุนให้ยูเครนซื้ออาวุธดังกล่าวอาจทำให้รัสเซียรู้สึกว่าเป็นการยั่วยุ และอาจทำให้ความตึงเครียดบริเวณพรมแดนยูเครน-รัสเซีย รุนแรงขึ้นได้
ที่ผ่านมา ยูเครนสั่งซื้ออาวุธส่วนใหญ่จากสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส ลิธัวเนียและตุรกี ซึ่งรวมถึงโดรนติดอาวุธ ระบบต่อต้านขีปนาวุธ และอุปกรณ์ป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ นอกจากนี้ ยูเครนยังต้องการจัดหาขีปนาวุธแบบโจมตีภาคพื้นดินที่สามารถยิงใส่เป้าหมายหลายจุดได้อย่างต่อเนื่อง
และในขณะที่ประเทศสมาชิกองค์การนาโต้กำลังถกเถียงกันว่าควรสนับสนุนด้านอาวุธแก่ยูเครนหรือไม่ รวมทั้งมาตรการลงโทษใดที่ควรนำมาใช้หากรัสเซียบุกรุกยูเครน ขณะนี้ดูเหมือนความกังวลของประเทศในแถบคาบสมุทรบอลข่านกลับยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อรัสเซียเตรียมซ้อมรบกับเบลารุส
รายงานระบุว่า รัสเซียได้ส่งกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ไปยังเบลารุสในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงระบบขีปนาวุธ S-400 ที่ถือเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อประเทศเพื่อนบ้านของรัสเซียและเบลารุสด้วย