องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซ่า เปิดเผยแผนส่งจรวดลำใหม่ขึ้นสำรวจดวงจันทร์และดาวอังคารในปีหน้า โดย จะส่งตัวละครการ์ตูนชื่อดังของสหรัฐฯ อย่าง ‘สนูปี้’ สุนับพันธุ์บีเกิล ที่หลายคนคุ้นตาจากภาพนอนอาบแดดบนหลังคาบ้านของตน ขึ้นไปทดสอบความพร้อมก่อนจะส่งนักบินอวกาศขึ้นไปปฏิบัติภารกิจจริง ตามรายงานของสำนักข่าว เอพี
รายงานข่าวระบุว่า ตุ๊กตายัดนุ่น ‘สนูปี้’ น้ำหนัก 5 ออนซ์ (ราว 141 กรัม) ในชุดนักบินอวกาศของ นาซ่า นั้น มีหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งในการเดินทางไปยังอวกาศพร้อมกับยานอาร์ทิมิส วัน (Artemis I) ซึ่งเป็นยานสำรวจแบบไร้นักบิน
ปกติ นาซ่า มักใช้ตุ๊กตารูปสัตว์ขึ้นท่องอวกาศ เพื่อใช้เป็นสัญญาณว่า ตัวยานได้เข้าสู่สภาวะไร้น้ำหนักแล้วหรือยัง โดยดูจากการที่ตัวตุ๊กตาเริ่มลอยขึ้นจากที่นั่ง โดยข้อดีของการใช้ตุ๊กตาก็คือ การที่เป็นวัสดุนุ่มนิ่มและมีน้ำหนักเบา ทำให้การลอยไปกระแทกพื้นที่ภายในยานจนเกิดความเสียหาย หรือการพลาดไปกระแทกปุ่มใดๆ ในยานนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่าย
ภารกิจยานอาร์ทิมิส วัน ที่ นาซ่า วางแผนจะปล่อยออกจากศูนย์อวกาศเคนเนดี้ ในรัฐฟลอริดา ในปีหน้านั้น จะขึ้นบินสำรวจรอบดวงจันทร์ ก่อนจะบินกลับโลกในเดือนกุมภาพันธ์ของปีหน้า ในการทดสอบซ้อมทำภารกิจโดยไม่ต้องส่งนักบินอวกาศขึ้นไปด้วย เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่า ระบบทุกอย่างทำงานได้ตามปกติ
ทั้งนี้ หน้าที่ของ ‘สนูปี้’ ในภารกิจนี้ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ดัชนีวัดสภาวะไร้น้ำหนัก (zero gravity indicator) และ นาซ่า ยังจะส่งตัวต่อเลโก้ (Lego) ตัวละครเพื่อนสุนัขตัวนี้อีก 2 ตัวประกบขึ้นบินด้วย
การประกาศแผนส่ง ‘สนูปี้’ ขึ้นทดสอบการภารกิจครั้งนี้มีออกมา ขณะที่ ซีรีส์ “Snoopy in Space” ซีซั่นที่ 2 มีกำหนดจะออกฉายตอนแรกในวันศุกร์นี้ทางช่องทางสตรีมมิ่ง Apple TV+ พอดี โดยเนื้อหาในฤดูกาลใหม่นี้จะเป็นการผจญภัยต่อเนื่อง จากเนื้อหาฤดูกาลที่แล้วซึ่งเป็นเรื่องของ ‘สนูปี้’ ที่ได้กลายมาเป็นนักบินอวกาศและเดินทางไปยังดวงจันทร์
มาร์ค อีฟสตาฟ ผู้ผลิตและอำนวยการสร้างซีรีส์แอนิเมชั่นที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอมมี่มาแล้วนี้ เปิดเผยว่า ในซีซั่นใหม่นี้ ‘สนูปี้’ จะได้ลองเดินทางต่อไปยังที่ๆ ไม่มีใครเคยได้ไปมาก่อน เช่น ดวงจันทร์ของดาวพฤหัส หรือ ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะอื่นๆ ซึ่งเป็นการเดินทางผ่านจินตนาการของ ‘สนูปี้’ เช่นเคย เพียงแต่มีการใช้ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์อ้างอิงจาก นาซ่า นั่นเอง
(ที่มา: สำนักข่าว เอพี)