ระยะหลังๆ เราเริ่มเห็นกระแส Fan Fatigue จากภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ต่อกรวายร้ายสุดขั้ว และคอหนังเริ่มมองหาฮีโร่สายเทา หรือ Anti-Hero จากกระแสตอบรับอันท่วมท้นของฮีโร่หน้าผีที่มีลูกบ้าแบบฆ่าไม่ตายในชุดสูทฟิตเปรี๊ยะสีแดง อย่าง DeadPool ที่ทำรายได้ถล่มทลายทั้งภาคแรกและภาคสองกันมาแล้ว ทำให้ผู้สร้างหนังเริ่มเบนเข็มทุ่มเงินให้เหล่า Anti-Hero กันมากขึ้น
ล่าสุด เป็นคิวของ Venom ที่โซนี่ พิคเจอร์ส นำมาปลุกชีพอีกครั้ง หลังเจ้าปรสิตจากนอกโลกตัวนี้แป้กไม่เป็นท่าในการปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์ Spiderman 3 มาสู่ภาพยนตร์ฉายเดี่ยวของตัวเองเป็นครั้งแรก
Venom ว่าด้วยชีวิตของนักข่าวตกอับ “เอ็ดดี้ บร็อก” ที่พยายามขุดคุ้ยโครงการลับของมลนิธิ Life Foundation ของคาร์ลตัน เครค ซึ่งนำมนุษย์มาเป็นร่างให้กับเผ่าพันธุ์ “ซิมบิโอตส์” ปรสิตจากนอกโลก ด้วยคราวเคราะห์ของเอ็ดดี้ ที่บุกเข้าไปในห้องแลปจนเจอดีเข้ากับ Venom หนึ่งในซิมบิโอตส์ ที่ถูกชะตากับเขา จึงเข้าสิงร่างของเอ็ดดี้ จนกลายเป็นมิตรภาพแบบแปลกๆ พร้อมกับภารกิจปกป้องโลกจากการคุกคามของฝูงซิมบิโอตส์ที่เตรียมบุกโลกในไม่ช้า
Venom หนึ่งในวายร้ายที่เป็นขวัญใจของสาวกมาร์เวลคอมิกอยู่แล้ว ด้วยจุดพลิกผันชีวิตที่อยู่บนเส้นกั้นระหว่างความดีกับความโหดดิบ ผนวกกับความกวนโอ๊ยตั้งแต่โหงวเฮ้งของ ทอม ฮาร์ดี้ ในบทนักข่าวจอมกวน ทำให้ภาพยนตร์มีมิติแบบทั้งรักทั้งเกลียด และปล่อยให้คนดูคิดต่อว่า สิ่งที่ทั้งเอ็ดดี้และ Venom คิดนั้น มันถูกผิดอย่างไร ตัวเรื่องสร้างความผูกพันระหว่าง 2 ตัวละครเอกได้ดี
ส่วนคิวตลกอาจไม่ขำกรามค้างเหมือนกับหนังมาร์เวลทั่วไป แต่กลมกล่อมกำลังดีและช่วยเบรกเกมในการเรียกรอยยิ้มให้คนดูท่ามกลางเส้นเรื่องที่เน้นปูพื้นให้คนรู้จัก Venom ขณะที่แฟนๆ Venom คงฟินกับรายละเอียดหลายเรื่องที่บรรจุลงไปในนั้น รวมทั้งการเปลี่ยนฉากจากบทที่เรียก ซิมบิโอตส์ ผิดจนถูกแฟนๆ โวยด้วย และแน่นอนอย่าลืมอยู่ต่อจนถึง End Credit เพราะไม่ทำให้ผิดหวัง!
(บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย นีธิกาญจน์ กำลังวรรณ)
(รับฟังวีโอเอไทยคุยหนัง Venom จากรายการสุดสัปดาห์กับวีโอเอ)