ระหว่างที่แฟนหนังซูเปอร์ฮีโร่ และสาวกอันเหนียวแน่นของ Marvel ตั้งตารอคอยอภิมหาศึกแห่งซูเปอร์ฮีโร่ Avergers: Infinity War ค่ายหนัง Marvel ก็ไม่ทำให้แฟนๆหายคิดถึง ด้วยการทยอยเข็นภาพยนตร์ Stand Alone ของซูเปอร์ฮีโร่ในค่ายอยู่ตลอด
มาคราวนี้เป็นคิวของ Thor ซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูเหมือนตัวประกอบในทีม Avengers ไปๆมาก็มีหนังของตัวเองมาถึงภาคที่ 3 แล้ว
Thor: Ragnarok หยิบห้วงเวลาที่หายไปใน Avengers: Age of Ultron และผสมกับเรื่องราวศึก Gladiator ระหว่าง Thor และ the Hulk ในคอมมิก โดยเมื่อ Thor เห็นนิมิตว่าอาณาจักร Asgard ของตนถูกทำลายและตามหา Infinity stone จึงกลับไปบ้านเกิดเพื่อหยุดยั้งเรื่องนี้ และพบว่าผู้ที่หวังทำลาย Asgard ให้สิ้นซากก็คือ Hela พี่สาวที่ถูกลืมของ Thor
2 ภาคที่ผ่านมาของ Thor ที่นำเรื่องจักรๆวงศ์และความรักของ Thor และมนุษย์สาวอย่าง Jane ซึ่งแสนเชยและน่าเบื่อนั้น ถูกบดบังรัศมีไปหมดในภาคนี้
เพราะผู้กำกับสายตลก Taika Waititi ได้ฉีกแนวการกำกับให้ดูมีสีสัน ตลกโปกฮา ยิงมุกไม่สนใจกล้ามท้อง พร้อมเพลงประกอบภาพยนตร์ที่โดนใจ จนมีกลิ่นอายของ Guardians of the Galaxy อยู่นิดๆ
เนื้อเรื่องดำเนินไปตรงๆ เปิดพื้นที่ให้ยิงมุกฮากระจาย พร้อมด้วยการเปิดตัวนักแสดงเต็มอิ่ม Thor ในลุคใหม่ไร้ผมสลวยเหมือนแต่ก่อน Loki น้องชายจอมแสบของ Thor ที่ดูยังไงก็เกลียดไม่ลง The Hulk มาดนี้ทั้งตลกและน่าหมั่นไส้ไปพร้อมกัน
ฝั่งผู้หญิงก็โดดเด่น อย่าง Hela พี่สาวตัวร้ายที่ทำลายได้แม้กระทั่งค้อนของ Thor เทพธิดานักบู๊ Valkyrie และ Dr. Strange ที่โผล่มาให้ได้ฮือฮากัน
ที่ชอบมากๆ คือ ความทุ่มเทของผู้กำกับ ที่ลงไปเล่นเป็น 2 ตัวละครในเรื่อง นั่นคือ Surtur ปีศาจไฟ และ Korg ยักษ์หินนักสู้ในสังเวียน Gladiator ที่สุภาพเกินกว่ารูปลักษณ์
โดยรวมถือว่าภาคนี้น่าจะเป็นบทสรุปของเทพเจ้าสายฟ้าที่น่าประทับใจ สะท้อนว่า Marvel กล้าคิดกล้าทำ และกล้าเสี่ยงกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว
เพราะนอกจากจะฉีกคาแรกเตอร์เทพเจ้าสายฟ้า ที่ซ่อนความเฉิ่มเชยไว้ตั้งแต่ 2 ภาคแรก ให้กลายเป็นเทพเจ้าสุดเกรียน การดึงภาพของ the Hulk ให้เป็นมากกว่าซูเปอร์ฮีโร่ตัวประกอบ
และที่สำคัญ คือ การเปิดตลาดซูเปอร์ฮีโร่และตัวร้ายหญิงที่ทรงพลัง ถือเป็นการดับเครื่องชนของ Marvel ที่ประสบความสำเร็จทีเดียว
(บทวิจารณ์โดย นีธิกาญจน์ กำลังวรรณ)