การโคจรมาพบกันครั้งแรกระหว่าง Seth Rogen นักแสดงตลกสายชิวจากภาพยนตร์เรื่อง The Interview และดาราสาวมากความสามารถ Charlize Theron จากภาพยนตร์เรื่อง Mad Max โดดลงมาชิงลางภาพยนตร์โรแมนติกคอมาดี้ที่ไม่ค่อยได้รับการโปรโมตมากนักอย่าง Long Shot
Long Shot เล่าถึง Fred Flarsky (Seth Rogen) นักข่าวมากฝีมือที่มักจะหาเรื่องให้ชีวิตไม่สงบสุขได้ตลอดเวลา ไปพบกับ Charlotte Field (Charlize Theron) นักการเมืองที่สวย ฉลาดครบเครื่อง และเป็นสตรีทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลก ก่อนจะทั้งคู่จะรำลึกความหลังว่า Charlotte เคยเป็นทั้งพี่เลี้ยงและรักแรกของ Fred เสียด้วย
จนกระทั่ง Charlotte ตัดสินใจจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เธอจึงว่าจ้างให้ Fred เป็นนักเขียนสุนทรพจน์ให้ และนำไปสู่การผจญภัยและความรักที่คาดไม่ถึง
ตัวเรื่องพยายามฉายภาพของความรักที่เป็นไปไม่ได้ แถมยังมาแบบคนละทิศคนละทาง เมื่อ Charlotte คือรัฐมนตรีต่างประเทศหญิงอนาคตไกลถึงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ Fred กลับเป็นแค่นักข่าวมือเก๋าจอมพยศ ผู้มักจะทำอะไรตามใจฉันแบบไม่สนไม่แคร์ใคร
ส่วนดาราที่ขโมยซีนทุกครั้งที่เข้าฉากเห็นจะเป็น Bob Odenkirk ในบทประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ Alexander Skarsgard ในบทนายกแคนาดา ที่สลัดภาพหนุ่มหล่อเท่ห์สเน่ห์แรง มารับบทชายผู้ไม่มีอารมณ์ขันและมีวาทศิลป์ย่ำแย่ได้ชวนขำ
ส่วนเนื้อหาในเรื่องก็แอบใส่ประเด็นสังคมและการเมือง อย่างการแก้ปัญหาโลกร้อน ความแบ่งแยกทางการเมือง บทบาทของสตรี และเรื่องสีผิว แต่เป็นการแตะเบาๆ พอแสบๆคันๆ
สิ่งที่ได้รับจากการชมเรื่องนี้ เห็นจะเป็นเรื่องของ jugdement และเรื่อง stereotype ของคนในปัจจุบัน ที่พอมีสีผิว เชื้อชาติ ศาสนา หรือแนวคิดทางการเมืองต่างกัน ก็อาจจะกระทบกับความสัมพันธ์ฉันท์มิตรได้ง่าย
สรุปแล้ว Long Shot เป็นหนังรอม-คอมกลิ่นอายการเมืองและสังคม ที่เป็นการก้าวออกจาก comfort zone ของนักแสดงหลายคนในเรื่อง แต่ยังมอบความสนุกสนานและรอยยิ้มบางๆ ให้คนดูกลับบ้านไปได้
(บทวิจารณ์โดยนีธิกาญจน์ กำลังวรรณ)