ในช่วงนี้เหมือนดิสนีย์พยายามเรียกคืนทุนจากมาร์เวล จากการเข็นภาพยนตร์ในจักรวางมาร์เวลออกมาให้จิตตกกันจาก Avengers: Infinity War มาคราวนี้ขอเรียกเสียงฮาและความสนุกครบเครื่อง กับ Ant-man and the Wasp ซึ่งสาวกมาร์เวลอาจคุ้นตากับคู่รักฮีโร่นี้เป็นอย่างดี
ภาคนี้เล่าเรื่องต่อจาก Captain America: Civil War ที่ Scott Lang มนุษย์มด Ant-Man ใกล้ที่จะเป็นอิสรภาพจากการถูกกักบริเวณในบ้าน House Arrest และเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการทำธุรกิจกับเพื่อนซี้ในเรือนจำ แต่จู่ๆเขาก็เชื่อมต่อกับ Janet แม่ของ Hope อดีตแฟนสาวที่รักร้าวไม่เป็นท่า
พ่อบ้านใจกล้าจึงต้องแอบย่องออกมาจากการถูกจองจำในบ้านโดย FBI เพื่อร่วมมือกับ Hope ที่กลายมาเป็น the Wasp รุ่นสอง และว่าที่พ่อตา Dr. Hank ต่อกรกับวายร้ายอย่าง Ghost และ Sonny พ่อค้าอาวุธในตลาดมืดจอมโหด และช่วย Janet กลับมาจากมิติควอนตัมให้ได้
ถือว่าพ่อมดบ้านใจกล้า Ant-man and the Wasp เอาชนะอาถรรพ์ของภาค 2 มักจบไม่สวยไปได้ ด้วยเหตุผลหลายประการ
อย่างแรก คือ ความเป็นโรแมนติก-คอมมาดี้ และความเป็นครอบครัวอย่างชัดเจน มีทั้งอารมณ์พ่อตาลูกเขย สไตล์ของพ่อแง่แม่งอนระหว่างพระ-นาง และความรักความอบอุ่นของครอบครัวแบบยุคเก่าและยุคใหม่
อย่างที่สอง มนุษย์มดมีมิติของความเป็นคนบ้านๆ ที่พยายามสร้างสมดุลชีวิตให้คนรอบข้างมีความสุข ซึ่งทำให้เรารู้สึกเอ็นดูและเห็นใจไปในคราวเดียวกัน
อย่างที่สาม เนื้อหาของภาคแรกเพียงแค่เล่าถึงที่มาของมนุษย์มดรุ่นสอง แต่ในภาคนี้ คือ การผนึกกำลังของ Ant-man และ the Wasp อย่างแท้จริง ซึ่งตัวต่อสาวทำคิวบู๊ได้สวยและเท่ห์ไปในตัว ส่วนมนุษย์มดขอเน้นความฮาความโก๊ะไป
อย่างที่สี่ เคมีของตัวละครที่เรียกได้ว่าเข้าขากันมากเหมือนมองตาก็รู้ใจ รับส่งมุกกันแบบไม่บันยะบันยัง ที่สำคัญมาร์เวลใช้จุดแข็งของการมอบซีนให้กับตัวละครทุกตัวได้อย่างพอดิบพอดี
สรุปแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และไม่จำเป็นจะต้องรู้จักตัวละครในจักรวาลมาร์เวลให้ปวดหัว และเมื่อดูจบแล้วก็อาจจะเข้าใจถึงคำว่า “พ่อบ้านใจกล้า” ได้มากขึ้น