"Finding Dory" ออกฉายหลังจาก Finding Nemo สร้างความประทับใจมาแล้วเมื่อ 13 ปีก่อน โดยได้ผู้กำกับและเขียนบทหน้าเดิม Andrew Stanton และผู้ให้เสียงคนเดิม รวมทั้ง Ellen DeGeneres ผู้ให้เสียงปลาดอรี่สีน้ำเงิน ตัวเอกของภาคนี้
หลังจากที่ ดอรี่ ปลาขี้ลืม ช่วยปลาการ์ตูน มาริน ตามหาลูกที่ฝั่งหนึ่งของมหาสมุทรได้สำเร็จเมื่อภาคที่แล้ว 6 เดือนต่อมา ดอรี่มักฝันถึงพ่อแม่ของตัวเอง และเริ่มมีความจำลางๆ ขึ้นมาว่าตัวเองก็มีพ่อแม่ที่พลัดพรากจากกันไปนาน
ดอรี่ตั้งมั่นจะต้องตามหาพ่อแม่ให้ได้ โดยอาศัยความจำที่วูบกลับไปกลับมาเป็นตัวนำทาง ด้วยความช่วยเหลือจากปลาการ์ตูนพ่อ-ลูก (มารินและนีโม่) และเต่าทะเลหน้าเดิม ดอรี่เดินทางมาถึงสถานพิทักษ์สัตว์น้ำแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดอรี่คุ้นว่าเป็นบ้านของตังเอง ถึงกระนั้นทั้งหมดยังมีการผจญภัยครั้งใหญ่รออยู่ที่นั่น
โจทย์ท้าทายของ Finding Dory คือการทำภาคต่อจากหนังที่สมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้วอย่าง Finding Nemo ให้ออกมาสนุกสนานไม่แพ้ภาคแรก โดยต้องไม่ทำให้คนดูรู้สึกว่าซ้ำซ้อนกับ Finding Nemo
ภาคนี้จึงมีตัวละครหน้าใหม่เพิ่มมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฉลามวาฬ ปลาวาฬเบลูก้า และปลาหมึกยักษ์ที่สามารถพรางสีตัวเองตามสภาพแวดล้อมได้
หนังให้ข้อคิดหลายอย่างสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นผู้ทุพพลภาพ การกักขังสัตว์น้ำ หรือการเลี้ยงลูกแบบปกป้องมากเกินไป
ถือเป็นหนังครอบครัวที่เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะจูงลูกๆ เข้าไปนัั่งหาความบันเทิงแฝงสาระร่วมกัน
(รับฟังคลิปคุยหนัง Finding Dory จากรายการสุดสัปดาห์กับวีโอเอ จาก นิตยา มาพึ่งพงศ์ และ ทรงพจน์ สุภาผล)