(เชิญรับฟังวีโอเอไทย คุยหนัง "Dunkirk" จาก นิตยา มาพึ่งพงศ์ รัตพล อ่อนสนิท และ นีธิการณ์ กำลังวรรณ ในรายการสุดสัปดาห์กับวีโอเอ)
Dunkirk ภาพยนตร์สงครามอิงประวัติศาสตร์ ทำเงินติดอันดับหนึ่งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝีมือการกำกับของ Christopher Nolan ซึ่งเคยฝากผลงานที่น่าจดจำหลายเรื่องด้วยกัน ทั้ง Batman: The Dark Knight, Interstellar และ Inception
เขาถ่ายทอดเรื่องราวของ Dunkirk Evacuation ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1940 ทหารอังกฤษและพันธมิตรต้องอพยพทหารราว 3 แสนนายออกจากหาด Dunkirk บริเวณเมืองท่ากาเลส์ ของฝรั่งเศส ในระหว่างที่ทหารนาซีเยอรมันก็รุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ ภารกิจดังกล่าวสิ้นสุดเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น ด้วยเป้าหมายเดียว คือการพาทหารกลับบ้านให้ได้มากที่สุด
ตลอด 1 ชั่วโมง 47 นาที ภาพยนตร์แบ่งเส้นเวลาเป็น 1 สัปดาห์ 1 วัน และ 1 ชั่วโมง ในภารกิจ Dunkirk ถ่ายทอดมุมมองของเหล่าทหาร ครอบครัวบนเรือที่มาช่วยขนทหารกลับบ้าน และนักบินที่คอยยิงสกัดทหารเยอรมัน
ช่วงแรกดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็วด้วยการพาผู้ชมเข้าไปอยู่ในสงครามทันที ภาพแต่ละฉากที่สวยจนลืมไปว่านี่คือหนังสงคราม จนกระทั่งมีเพลงประกอบบีบคั้นหัวใจแทนเสียงปืนเสียงระเบิด
หลายฉากในทะเล ขยี้อารมณ์ของการมีความหวังและสิ้นหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า พอภาพยนตร์สิ้นสุดลงเราแทบจำไม่ได้ว่าตัวละครเหล่านั้นเป็นใครบ้าง เพราะหนังไม่ได้สร้างให้เรื่องนี้ต้องมีฮีโร่เหมือนหนังสงครามทั่วไป
แต่โดยรวมมันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวที่น่าจะทำให้ Dunkirk เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่น่าจดจำของ Christopher Nolan
