เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายประเทศ ร่วมกับรัฐบาลโมร็อกโก เร่งหาผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 2,800 ราย ในวันจันทร์
ทีมจากประเทศสเปน อังกฤษและกาตาร์ กำลังทำงานกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในโมร็อกโกในความพยายามครั้งนี้ หลังจากที่แผ่นดินไหวขนาดความแรง 6.8 เมื่อคืนวันศุกร์สร้างความเสียหายต่อเขตไฮแอตลาสเมาเทนส์ (High Atlas Mountains) โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองมาร์ราเกชไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 72 กิโลเมตร
สื่อของทางการรัฐบาลโมร็อกโกระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 2,862 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 2,562 คน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยกล่าวว่าบ้านเรือนแบบดั้งเดิมที่ชาวโมร็อกโกอาศัยจำนวนมากใช้อิฐที่ทำจากดินโคลน เป็นวัสดุที่อันตรายเมื่อถล่มลง ทำให้ลดโอกาสการพบผู้รอดชีวิต
รอยเตอร์รายงานถึงเด็กชายวัย 7 ปี ที่ชื่อ สุเลมาน เอียตนาเซอร์ ที่เสียชีวิตในห้องนอนของตนเอง หลังจากที่หลับอยู่ในห้องรับแขก และแม่ของเขาอุ้มลูกชายมานอนให้ห้อง จากนั้นเกิดแผ่นดินไหวและเพดานพังลงมาทับสุเลมาน ซึ่งเพิ่งเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ที่โรงเรียน
รัฐบาลโมร็อกโกถูกวิจารณ์ว่า ทำงานในช่วงแรกล่าช้า ก่อนที่งานบรรเทาทุกข์ในวันจันทร์เดินหน้าด้วยความรวดเร็วขึ้น
นอกจากความสูญเสียต่อชีวิตประชาชนแล้ว เริ่มพบความเสียหายต่อพื้นที่มรดกโลกที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกของสหประชาชาติ
ในเขตเมืองเก่าของมาร์ราเกช ตึกหลายแห่งได้รับความเสียหาย รวมทั้งมัสยิดทินเมล (Tinmel Mosque) ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 12
เหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้ ถือเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1960 ที่ธรณีพิโรธในครั้งก่อนคร่าชีวิตอย่างน้อย 12,000 คน
- ที่มา: รอยเตอร์