ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ผู้หญิงมีครรภ์ที่กินอาหารที่มีแร่เหล็กและกรดโฟลิค ลูกที่เกิดจะเฉลียวฉลาดมากกว่าเด็กอื่นๆเพราะสมองพัฒนาทั้งในด้านกายวิภาคและระบบประสาท


ผู้หญิงมีครรภ์ที่กินอาหารที่มีแร่เหล็กและกรดโฟลิค ลูกที่เกิดจะเฉลียวฉลาดมากกว่าเด็กอื่นๆเพราะสมองพัฒนาทั้งในด้านกายวิภาคและระบบประสาท
ผู้หญิงมีครรภ์ที่กินอาหารที่มีแร่เหล็กและกรดโฟลิค ลูกที่เกิดจะเฉลียวฉลาดมากกว่าเด็กอื่นๆเพราะสมองพัฒนาทั้งในด้านกายวิภาคและระบบประสาท

เป็นที่ทราบกันดีว่า การขาดธาตุเหล็กเป็นปัญหาเรื้อรังในหลายส่วนของโลก โดยเฉพาะผลกระทบต่อผู้หญิงที่มีครรภ์และพัฒนาการของบุตรในครรภ์ งานวิจัยใหม่ที่เพิ่งเผยแพร่ออกมา เน้นย้ำความสำคัญของการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสำหรับผู้หญิงมีครรภ์ ถ้าอยากจะเห็นลูกที่เกิดมีสุขภาพดีและเติบโตเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาด

เป็นที่ทราบกันดีว่า การขาดธาตุเหล็กเป็นปัญหาเรื้อรังในหลายส่วนของโลก โดยเฉพาะผลกระทบต่อผู้หญิงที่มีครรภ์และพัฒนาการของบุตรในครรภ์ งานวิจัยใหม่ที่เพิ่งเผยแพร่ออกมา เน้นย้ำความสำคัญของการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสำหรับผู้หญิงมีครรภ์ ถ้าอยากจะเห็นลูกที่เกิดมีสุขภาพดีและเติบโตเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาด

งานวิจัยในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมาระบุความสำคัญของ “สารอาหารรอง” หรือ micronutrients ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในอาหารในจำนวนน้อยแต่สามารถก่อให้เกิดผลแตกต่างอย่างสำคัญได้ สารอาหารรองประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงมีครรภ์ คือ ธาตุเหล็ก เพราะเป็นสารที่สำคัญต่อพัฒนาการของระบบประสาทส่วนกลางของทารกในครรภ์ นักโภชนาการ Parul Christian ของคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัย Johns Hopkins อธิบายว่า การขาดธาตุเหล็กตั้งแต่แรกเริ่มทำให้ระบบประสาทของสมองเปลี่ยนไปได้ และยังส่งผลกระทบถึงสารเคมีในระบบประสาทและระบบการเผาผลาญของสมองได้ด้วย ทั้งหมดนี้มีความสำคัญมากต่อพัฒนาการในการเรียนรู้ ประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว

แต่ในประเทศที่ยากจน การจัดวิตามินและสารอาหารรองให้กับผู้หญิงมีครรภ์เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนัก ผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำว่า รอให้เด็กเกิดเสียก่อน จึงค่อยให้ธาตุเหล็กเป็นอาหารเสริมก็ได้ผลเหมือนกัน และการวิจัยผู้หญิงยากจนในประเทศเนปาลเมื่อสิบปีที่แล้ว โดยทีมงานที่มีนักโภชนาการ Parul Christian ร่วมด้วย แสดงให้เห็นว่า อาหารเสริมที่มีธาตุเหล็กและกรดโฟลิค ให้ประโยชน์แก่เด็กทารกและการเจริญเติบโตในเวลาต่อมา

แต่งานวิจัยชิ้นใหม่ที่นักโภชนาการผู้นี้เพิ่งเผยแพร่ออกมา แสดงให้เห็นว่า ผลกระทบต่อเด็กทารกและการเจริญเติบโตมีระยะเวลายืดยาวกว่า ถ้าเด็กนั้นได้รับธาตุเหล็กตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ในครรภ์มารดา ในการทำงานวิจัยชิ้นใหม่นี้ คุณ Parul และทีมงาน กลับไปที่ประเทศเนปาลอีกครั้งหนึ่ง และสามารถทดสอบพัฒนาการทางประสาทของเด็กที่กำลังโตใกล้จะเป็นวัยรุ่นได้

คุณ Parul บอกว่า เด็กที่มารดาได้รับธาตุเหล็กและกรดโฟลิคตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ตลอดไปจนถึงช่วงสามเดือนหลังการคลอด มีสติปัญญา การทรงจำ และการควบคุมการเคลื่อนไหวดีกว่าเด็กอื่นๆที่มารดาได้รับอาหารเสริม แต่ไม่มีธาตุเหล็ก

นักโภชนาการผู้นี้ให้ความเห็นว่า ผลการวิจัยล่าสุดนี้ ควรจะทำให้ผู้วางแผนงานทางด้านสาธารณสุขมีความมั่นใจว่า เงินที่จะใช้เพื่อจัดหาอาหารเสริมที่มีธาตุเหล็กให้กับผู้หญิงมีครรภ์นั้น จะไม่สูญเปล่า

ติดตามอ่านรายงานการวิจัยนี้ได้ในวารสาร American Medical Association ฉบับล่าสุด

XS
SM
MD
LG