ตำรวจหญิงมินเนโซตาเผชิญข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา จากกรณียิงสังหารชายผิวดำ

อัยการรัฐมินเนโซตา เปิดเผยว่า จะยื่นฟ้อง คิม พอตเตอร์ (Kim Potter) อดีตตำรวจหญิงเขตบรูคลิน เซนเตอร์ ในข้อหาทำให้คนตายโดยไม่เจตนา (manslaughter) สืบเนื่องจากเหตุการณ์ตำรวจหญิงผู้นี้ยิงสังหารชายผิวดำ ดอนท์เต ไรท์ (Daunte Wright) เมื่อวันอาทิตย์ จนก่อให้เกิดเป็นการประท้วงลุกลามในรัฐมินเนโซตาตลอดหลายวันที่ผ่านมา

อัยการเขตวอชิงตันเคาน์ตี้ พีท ออร์พุท (Pete Orput) ประกาศตั้งข้อหาทำให้คนตายโดยไม่เจตนา ต่ออดีตตำรวจหญิงพอตเตอร์ ซึ่งอาจทำให้เธอต้องโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี

ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน คิม พอตเตอร์ เพิ่งประกาศลาออกจากสำนักงานตำรวจเขตบรูคลิน เซนเตอร์ ที่ซึ่งเธอทำงานมานาน 26 ปี ขณะที่หัวหน้าตำรวจของเขตดังกล่าวประกาศลาออกในวันเดียวกัน

สำนักงานตำรวจเขตบรูคลิน เซนเตอร์ เปิดเผยภาพจากกล้องที่ติดกับตัวตำรวจคิม พอตเตอร์ ในวันเกิดเหตุ แสดงให้เห็นนายดอนท์เต ไรท์ ถูกตำรวจเรียกให้หยุดรถเนื่องจากทะเบียนหมดอายุ ก่อนที่จะพบว่าเขามีหมายจับอยู่ด้วย

ตำรวจหญิงผิวขาวผู้นี้พยายามสกัดนายไรท์ไม่ให้หนีจากการถูกจับกุมขณะที่เขากำลังขัดขืนและดิ้นเข้าไปภายในรถยนต์ที่เขาใช้ จากนั้นเธอใช้ปืนยิงไปที่นายไรท์หนึ่งนัดก่อนที่เขาจะขับรถหนีไปและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยพบกระสุนเจาะเข้าที่หน้าอกของเขาหนึ่งนัด

หัวหน้าตำรวจ ทิม แกนนอน (Tim Gannon) กล่าวว่า ตนเชื่อว่าพอตเตอร์ตั้งใจใช้ปืนไฟฟ้าเพื่อช็อตนายไรท์ไม่ให้หนี แต่กลับหยิบผิดกลายเป็นจับปืนพกขึ้นมาแทนก่อนลั่นไก

เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การเดินขบวนประท้วงและความรุนแรงบนท้องถนนเป็นวันที่สามติดต่อกัน โดยทางการมินแนอาโปลิสประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 22.00 น. เพื่อไม่ให้ผู้คนออกมาเดินขบวนประท้วง แต่ยังคงมีประชาชนจำนวนมากรวมตัวกันเรียกร้องความยุติธรรมหน้าสำนักงานตำรวจเขตบรูคลิน เซนเตอร์

เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวต่อผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า ตนขอร้องให้เกิดสันติภาพและความสงบ หลังจากที่ตำรวจนครมินนีแอโปลิส รัฐมินเนโซตา ใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดแสงในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมราว 200 คนที่รวมตัวเดินขบวนบนท้องถนนในย่านบรูคลิน เซนเตอร์

เหตุการณ์ความขัดแย้งจากความรุนแรงของตำรวจครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นในช่วงที่กำลังมีการพิจารณาคดีอดีตตำรวจผิวขาว ดีเร็ค ชอวิน ผู้ถูกฟ้องในข้อหาฆาตกรรมชายผิวดำ จอร์จ ฟลอยด์ ในนครมินนีแอโปลิส เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนำไปสู่การประท้วงเรียกร้องสิทธิของคนผิวสีในหลายเมืองทั่วอเมริกา รวมทั้งในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกด้วย