รายงานนี้เป็นผลงานของการวิจัยร่วมกันระหว่างกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ สหพันธ์เจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์นานาชาติ องค์การอนามัยโลกและหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
Dr. Babatunde Osotimehin ผู้อำนวยการบริหารแห่งกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์และผู้ช่วยทำคลอดทารกถือเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญมากต่อสุขภาพเเม่และเด็ก ถือเป็นวีรบุรุษที่ไม่ได้รับการยกย่อง
ด้านคุณ Frances Day-Stirk ประธานของสมาพันธุ์เจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์นานาชาติกล่าวถึงปัญหาการขาดแคลนเ้จ้าหน้าที่ผดุงครรภ์และทำคลอดว่าการแก้ปัญหาการขาดแคลนเจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์ในประเทศรายได้น้อยและปานกลางจะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้หญิงและทารกหลายล้านคนต่อปีเสียชีวิตระหว่างการคลอดเเละรายงานเรื่องนี้ยังได้เรียกร้องให้มีการพัฒนาคุณภาพของการบริการด้านการผดุงคตรรภ์ให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันการเสียชีวิตของมารดาและทารกหลังคลอดด้วย
รายงานชิ้นดังกล่าวชี้ว่าการศึกษาอบรมทางด้านวิชาการผดุงครรภ์จะช่วยลดช่องว่างของการดูเเลพยาบาลสุขภาพเเม่และเด็กที่ขยายตัวกว้างขึ้น โดยผลตอบแทนจากการลงทุนด้านวิชาการผดุงครรภ์จะมีประโยชน์อย่างมหาศาลต่อสุขภาพของเเม่และเด็ก
ประธานของสมาพันธุ์เจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์นานาชาติกล่าวว่่าเจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์จะสามารถให้บริการทางสุขภาพที่จำเป็นราว 90 เปอร์เซ็นเเก่หญิงตั้งครรภ์และทารกเเรกเกิดหากได้รับการศึกษาอบรมที่ได้มาตราฐานระดับสากล
รายงานเกี่ยวกับการผดุงครรภ์ในปีนี้ชี้ว่าประเทศต่างๆควรพัฒนาการบริการด้านการผดุงครรภ์ด้วยการปรับปรุงคุณภาพของเจ้าหน้าที่ด้านนี้และเพิ่มจำนวนให้มากขึ้นเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการบริการนี้อย่างทั่วถึง
คุณ Frances Day-Stirk ประธานของสมาพันธุ์เจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์นานาชาติกล่าวถึงการป้องกันการเสียชีวิตระหว่างการตั้งครรภ์และการคลอดว่าช่วยไม่ให้ครอบครัวสูญเสียคนที่รักและยังช่วยส่งเสริมสุขภาพของทั้งแม่เเละเด็กทารกที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เเข็งแรงต่อไปในอนาคต
