ประธานาธิบดี อันเดรส มานูเอล โลเปส โอบราดอร์ ของเม็กซิโก มีกำหนดประชุมร่วมกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในการเดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการครั้งแรกในวันพุธนี้
แต่ก่อนที่จะสามารถเดินทางมาสหรัฐฯ ได้ ปธน.โลเปส โอบราดอร์ ต้องรอผลตรวจการติดเชื้อโควิด-19 ก่อน และจะต้องทำการตราวจอีกครั้งเมื่อมาถึงสหรัฐฯ ตามพิธีการของรัฐบาลปธน.ทรัมป์
ทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้นำของทั้งสองประเทศจะพบปะเพื่อพูดคุยประเด็นข้อตกลงการค้าแถบอเมริกาเหนือฉบับใหม่ ที่ชื่อว่า USMCA (United States-Mexico-Canada Agreement) ระหว่างประเทศสหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา ซึ่งเพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ผู้นำเม็กซิโกกล่าวว่า การเดินทางมากรุงวอชิงตันในครั้งนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะข้อตกลงการค้าล่าสุดจะช่วยสร้างงานให้กับประชาชนในอเมริกาเหนือ ขณะที่การระบาดใหญ่ของโควิด-19 สร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในเวลานี้
ผู้สันทัดกรณีด้านการเมืองหลายรายได้เรียกร้องให้ปธน.เม็กซิโกปฏิเสธคำเชิญของทำเนียบขาว ด้วยเหตุผลว่า ปธน.ทรัมป์ เรียกพลเมืองชาวเม็กซิโกว่าเป็นอาชญกร ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2016 รวมทั้งเรื่องของนโยบายการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนด้วย
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมประชุมของทำเนียบขาวครั้งนี้ แต่ ปธน.โลเปส โอบราดอร์ กล่าวว่า ผู้นำแคนาดาได้ตอบตกลงมาเยือนเม็กซิโกแล้ว