ผู้หญิงส่วนใหญ่เริ่มมีประจำเดือนเมื่ออายุราวๆ 13 ขวบ ผลงานวิจัยที่เพิ่งเผยแพร่ออกมา ระบุว่าเด็กผู้หญิงที่เริ่มประจำเดือนก่อนหรือหลัง 13 ขวบสองสามปี ดูจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับโรคหัวใจและโรคเส้นโลหิตอุดตัน
นักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Oxford ในอังกฤษวิเคราะห์ข้อมูลของผู้หญิง 1.3 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาว อายุระหว่าง 50 – 64 ปี และแนวโน้มที่ปรากฏให้เห็นในช่วงกว่าสิบปีที่คณะนักวิจัยติดตามดูก็คือ ผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือนเมื่ออายุ 10 ขวบหรืออ่อนกว่า หรือเมื่ออายุ 17 ขวบหรือสูงกว่า มีอัตราความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 27% ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจ เพิ่มขึ้น 16% สำหรับโรคโลหิตอุดตัน และ 20% สำหรับโรคความดันโลหิตสูง
หัวหน้าคณะนักวิจัยชุดนี้ นายแพทย์ Dexter Canoy นักระบาดวิทยาด้านโรคหัวใจและเส้นเลือดของฝ่ายโรคมะเร็ง ในภาคสุขภาพประชากรของ Oxford ให้ความเห็นว่า มีความเชื่อมโยงอย่างแข็งขันระหว่างอายุของการเริ่มมีประจำเดือนกับโรคหัวใจและโรคเส้นโลหิตอุดตัน ถ้าวาดออกมาเป็นกราฟจะเหมือนตัวอักษร U โดยผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือนก่อนอายุ 13 ขวบ จะอยู่ที่ยอดข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งจะเป็นผู้มีประจำเดือนหลังอายุ 13 ขวบขึ้นไป ในขณะที่ผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือนเมื่ออายุ 13 ขวบจะอยู่ระดับต่ำสุดของตัว U คือมีอัตราความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเหล่านั้นน้อยที่สุด
นักวิจัยผู้นี้กล่าวว่า ผลที่ได้ ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักตัวของผู้หญิง ไม่ว่าจะผอม อ้วน หรืออ้วนเกินขนาด หรือยาที่รับประทานสำหรับโรคความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรัลสูง หรือเบาหวาน
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยผู้นี้บอกว่า มีความเชื่อมโยงในอีกลักษณะหนึ่งระหว่างน้ำหนักตัวกับการเริ่มมีประจำเดือน เพราะตัวเลขบ่งชี้ว่า เด็กผู้หญิงที่อ้วนเกินขนาดมักจะมีประจำเดือนเร็ว และถ้าน้ำหนักตัวไม่ลดลงเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเส้นโลหิตอุดตันได้ ซึ่งทำให้เชื่อว่าการรณรงค์เพื่อลดความอ้วนให้กับเด็กผู้หญิง อาจช่วยลดความเสี่ยงที่เด็กเหล่านี้จะเป็นโรคหัวใจหรือเส้นโลหิตอุดตันได้เมื่อโตขึ้น
สำหรับเด็กผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือนหลังอายุ 13 ขวบขึ้นไป นายแพทย์ Dexter Canoy หัวหน้าคณะนักวิจัยชุดนี้บอกว่า ข้อมูลที่แล้วๆมา บ่งชี้ว่า เป็นผลมาจากการขาดอาหาร
รายงานการวิจัยนี้ตีพิมพ์ไว้ในวารสาร Circulation ของ American Heart Association