เหยื่อที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนในช่วงการปกครองในยุคอดีตผู้นำเผด็จการ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ของฟิลิปปินส์ พยายามขัดขวางการลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนียร์ บุตรชายของเขา โดยพยายามทำให้เขาขาดคุณสมบัติก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม
เฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนียร์ หรือ “บองบอง” มีคะแนนนำในผลสำรวจความเห็นหลายสำนัก โดยเขาลงแข่งศึกเลือกตั้งพร้อม ซารา ดูเตรเต้ บุตรสาวของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตรเต้ ที่ลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับเขา
เหยื่อในยุคเผด็จการมาร์กอสยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งมากขึ้นเรื่อยๆ โดยคำร้องเหล่านี้ขอให้ทางคณะกรรมการยกเลิกการอนุมัติลงแข่งเลือกตั้งของมาร์กอส หรือทำให้เขาขาดคุณสมบัติเนื่องจากถูกดำเนินคดีอาญาด้วยข้อหาไม่ยื่นภาษีรายได้เมื่อปีค.ศ. 1997
คำร้องแรกถูกยื่นเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน โดยกลุ่มองค์กรสิทธิมนุษยชนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือนักโทษการเมืองและเหยื่อในยุคของมาร์กอสผู้พ่อ ก่อนที่กลุ่มอื่นๆ จะยื่นคำร้องตามมา โดยคำร้องเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อไม่ให้มาร์กอสคนลูกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้
ทั้งนี้ มีผู้ถูกสังหาร ทรมาน หรือสูญหายหลายพันคนในช่วงการปกครองของมาร์กอสผู้พ่อเมื่อทศวรรษที่ 1980 ในขณะที่ตระกูลมาร์กอสมีทรัพย์สมบัติเพิ่มขึ้นหลายพันล้านดอลลาร์
เมื่อปีค.ศ. 1995 คณะลูกขุนสหรัฐฯ ในรัฐฮาวาย ตัดสินว่า มาร์กอสผู้พ่อมีส่วนรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในฟิลิปปินส์
กฎหมายเลือกตั้งของฟิลิปปินส์ระบุว่า ผู้ถูกตัดสินว่ามีความผิดอาชญากรรมที่ขัดกับศีลธรรมจะถูกตัดสิทธิ์จากตำแหน่งของรัฐ โดยผู้ยื่นคำร้องเห็นว่า การไม่จ่ายภาษีเงินได้เข้าข่ายความผิดดังกล่าว
ขณะที่คำร้องอื่นๆ ขอให้มาร์กอสคนลูกถูกตัดสิทธิ์ โดยอ้างกฎหมายภาษีของฟิลิปปินส์ที่ห้ามผู้ที่มีความผิดฐานฉ้อโกงภาษีรับตำแหน่งของรัฐ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายที่บังคับใช้โดยมาร์กอสผู้พ่อและยังคงมีผลบังคับใช้จนถึงปัจจุบัน
ทีมงานของมาร์กอสไม่ตอบคำขอความเห็นจากทางวีโอเอ แต่โฆษก วิคเตอร์ โรดริกูเอซ กล่าวหลายครั้งว่า คำร้องเหล่านี้ “น่ารำคาญ”
ผลสำรวจความเห็นล่าสุดระบุว่า มาร์กอส จูเนียร์ มีคะแนนนิยมนำอยู่ที่ 53 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่คู่แข่งอย่างรองประธานาธิบดีเลนิ โรเบรโด มีคะแนนตามหลังอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม มาร์กอส จูเนียร์ เคยพ่ายแพ้ให้กับโรเบรโดในศึกชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีเมื่อปีค.ศ. 2016
ผู้ยื่นคำร้องยืนยันว่า พวกเขาไม่ได้ยื่นคำร้องเพราะเห็นว่ามาร์กอสมีผลสำรวจความนิยมที่ดี แต่พวกเขายื่นคำร้องเพราะไม่ต้องการให้ตระกูลมาร์กอสได้รับสิทธิพิเศษทางกฎหมาย
ทั้งนี้ มาร์กอส จูเนียร์ เคยลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, ผู้ว่าการจังหวัด, วุฒิสมาชิก และรองประธานาธิบดี โดยไม่เคยถูกยื่นเรื่องคัดค้านมาก่อน โดยผู้ยื่นคำร้องระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งควรทำหน้าที่ของตนก่อนหน้านี้ และควรตัดสิทธิ์มาร์กอสตั้งแต่เขาลงเลือกตั้งครั้งแรกหลังถูกตัดสินว่ามีความผิดข้อหาไม่จ่ายภาษีเงินได้แล้ว