ภาพรวมธุรกิจการฉายภาพยนตร์ในสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่สายตาคนส่วนใหญ่จับจ้องรอชมศึกคนชนคน Super Bowl ครั้งที่ 58 ค่อนข้างเงียบเหงา โดยผลงานภาพยนตร์ล่าสุดของ แอปเปิล สตูดิโอส์ ว่าด้วยเรื่องของสายลับ อาร์ไกล์ (Argylle) ไม่สามารถดึงผู้ชมมาควักกระเป๋าเข้าโรงได้ ทำให้ได้ชื่อว่าเป็นหนังคว่ำเรื่องแรกของค่ายไปแล้ว
ในสัปดาห์ที่ 2 ที่เข้าฉาย อาร์ไกล์ จากฝีมือผู้กำกับ แมทธิว วอห์น ยังคงยึดตำแหน่งอันดับหนึ่งภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดไว้ แม้จะเก็บรายได้เพิ่มไปอีกเพียง 6.5 ล้านดอลลาร์ที่ทำให้ยอดรวมรายได้ขยับมาอยู่ที่ 28.8 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการที่มีต้นทุนสร้างสูงถึง 200 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ ยอดขายตั๋วจากทั่วโลกอยู่ที่ 60.1 ล้านดอลลาร์
ภาพยนตร์เข้าใหม่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ Lisa Frankenstein ผลงานตลกสยองขวัญอิงนวนิยายคลาสสิก ที่ปรับเปลี่ยนมาเล่าเรื่องของสาวยุคใหม่ที่พบกับแฟรงเกนสไตน์หนุ่ม เปิดฉายที่โรงภาพยนตร์ 3,144 แห่งทั่วสหรัฐฯ และทำเงินไปได้ 3.8 ล้านดอลลาร์ ตามการประเมินของสตูดิโอผู้จัดจำหน่ายในวันอาทิตย์ ทำให้สามารถยึดครองอันดับสองของชาร์ตหนังทำเงินไปได้
เหนียวแน่นในอันดับที่ 3 ก็คือ The Beekeeper ผลงานนักแสดงขาบู๊ เจสัน สเตแธม ที่ยังเดินหน้าทำเงินต่ไปได้อีก 3.5 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ 5 ของการเข้าฉาย ขณะที่ The Chosen ภาพยนตร์ที่อ้างอิงจากซีรีย์แนวดราม่าเกี่ยวกับชีวิตของพระเยซูร่วงลงมาอยู่ในอันดับที่ 4 ด้วยรายได้เพิ่มเติม 3.2 ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 5 ได้แก่ Wonka ที่เข้าฉายมาเป็นสัปดาห์ที่ 9 แล้วและยังเก็บเงินเข้ากระเป๋าไปได้อีก 3.1 ล้านดอลลาร์
ในภาพรวมของสัปดาห์นี้ เอพีระบุว่า เป็นสุดสัปดาห์ที่เงียบเหงาที่สุดของปี เพราะยอดรวมของการจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์นั้นอยู่ที่เพียง 40 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าสถิติช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเกือบ 25% ขณะที่ การแข่งขันซูเปอร์โบว์ลในช่วงเย็นวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้คนไม่เข้าโรง เพราะข้อมูลจากช่วงเดียวกันนี้แต่ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 มีการเก็บรายได้ได้ถึงกว่า 75 ล้านดอลลาร์มาแล้ว
พอล เดอร์การาเบเดียน นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Comscore ให้ความเห็นว่า น่าจะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้บรรยากาศในสุดสัปดาห์นี้เงียบเหงา ซึ่งรวมถึงประเด็นศึกคนชนคนที่มีผู้จับตาดูมากเป็นพิเศษในปีนี้ และการที่ภาพยนตร์เข้าฉายใหม่เพียงเรื่องเดียว
1. “Argylle,” $6.5 million.
2. “Lisa Frankenstein,” $3.8 million.
3. “The Beekeeper,” $3.5 million.
4. “The Chosen,” $3.2 million.
5. “Wonka,” $3.1 million
6. “Migration,” $3 million.
7. “Anyone But You,” $2.7 million.
8. “Mean Girls,” $1.9 million.
9. “American Fiction,” $1.3 million.
10. “Poor Things,” $1.1 million.
- ที่มา: เอพี
กระดานความเห็น