ประชาชนในเมืองลากอส เมืองใหญ่ที่สุดของไนจีเรีย ปฏิเสธมาตรการเคอร์ฟิวที่รัฐบาลประกาศใช้เมื่อคืนวันพุธ และร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หนึ่งวันหลังจากที่มีรายงานว่าทหารไนจีเรียยิงปืนใส่ผู้ประท้วงได้รับบาดเจ็บหลายราย
สถานการณ์การประท้วงระอุในลากอส
เกิดเหตุไฟไหม้หลายจุดในเมืองลากอสในวันพุธ และมีรายงานเสียงปืนดังทั่วเมืองแห่งนี้ รวมทั้งในจุดที่มีการรวมตัวชุมนุมของผู้ประท้วงในช่วงเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
รัฐบาลเมืองลากอสประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันพุธ แต่ยังคงมีประชาชนจำนวนมากชุมนุมบนท้องถนน
ผู้ว่าการลากอส บาบาจีเด ซานโวโอลู ทวีตข้อความในวันพุธว่า มีผู้เสียชีวิตหนึ่งรายจากอาการบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะ และขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตคือหนึ่งในผู้ประท้วงหรือไม่
ผู้ว่าฯ ซานโวโอลู ทวีตด้วยว่า มีประชาชนได้รับบาดเจ็บราว 30 คน ในเหตุการณ์ยิงใส่ผู้ประท้วงที่เลกกีโทลล์พลาซ่า ซึ่งเป็นเขตชุมชนคนฐานะดีในเมืองลากอส และว่าตนจะร่วมมือกับรัฐบาลกลางไนจีเรียเพื่อสืบหาสาเหตุของความรุนแรงนี้ รวมทั้งจะใช้มาตรการด้านความมั่นคงที่มีอยู่เพื่อปกป้องชีวิตของประชาชน
อคินโบโซลา อกุนซานยา หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ทหารได้ถูกส่งเข้าไปยังพลาซ่าดังกล่าวก่อนที่จะมีการดับไฟและมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด เธอเห็นผู้ประท้วงราว 10 คนถูกยิงและเจ้าหน้าที่ทหารลากพวกเขาออกไป
ขณะที่ อินเยเน่ อัคพาน ช่างภาพผู้อยู่ในเหตุการณ์ เผยว่ามีทหารมากกว่า 20 คนที่มุ่งหน้ามายังผู้ประท้วงและเริ่มยิงใส่พวกเขา
อย่างไรก็ตาม กองทัพไนจีเรียทวีตข้อความปฏิเสธรายงานข่าวเหล่านั้น โดยระบุว่าเป็น "ข่าวปลอม"
ประชาคมโลกแสดงความกังวล
รัฐบาลสหรัฐฯ เตือนพลเมืองอเมริกันในไนจีเรียให้ใช้ความระมัดระวังในช่วงที่การประท้วงในเมืองลากอสกำลังลุกลามไปเป็นความรุนแรง โดยแถลงการณ์ของสถานทูตและสถานกงสุลสหรัฐฯ ในไนจีเรีย ขอให้พลเมืองอเมริกันหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่กำลังเกิดการชุมนุมประท้วง พร้อมปิดทำการสถานทูตตั้งแต่วันอังคารต่อเนื่องมาถึงวันพุธ
เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส มีแถลงการณ์ขอให้ยุติการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ พร้อมประณามการใช้ความรุนแรงในเมืองลากอสที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กล่าวขอให้กองทัพไนจีเรียยุติการปราบปรามผู้ประท้วง พร้อมแสดงความสนับสนุนต่อการชุมนุมอย่างสันติเพื่อให้เกิดการปฏิรูประบบตำรวจและกำจัดปัญหาคอร์รัปชั่นในไนจีเรีย
ด้านองค์กรสิทธิมนุษยชน Amnesty International มีแถลงการณ์ว่า มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่ามีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ปราบปรามที่เลกกีโทลล์พลาซ่า
สองสัปดาห์แห่งการเรียกร้องปฏิรูปตำรวจ
การประท้วงในไนจีเรียเริ่มต้นขึ้นเมื่อเกือบสองสัปดาห์ก่อน เมื่อผู้ประท้วงได้ออกมาประณามการกระทำของหน่วยตำรวจพิเศษต่อต้านการลักทรัพย์ (Special Anti-Robbery Squad หรือ SARS) หลังจากที่มีวิดีโอแสดงให้เห็นชายผู้หนึ่งกำลังถูกเจ้าหน้าที่ของ SARS รุมทำร้าย
ที่ผ่านมา หน่วยพิเศษดังกล่าวถูกกล่าวหาหลายครั้งเรื่องการใช้อำนาจในทางที่ผิด ล่วงละเมิด คุกคาม ลักพาตัว ทำทารุณ และฆาตกรรมอำพราง
การประท้วงได้ลุกลามภายใต้ #EndSars ทำให้รัฐบาลตัดสินใจยุบหน่วยตำรวจพิเศษนี้ แต่การชุมนุมยังคงมีอยู่ต่อไปเพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปวงการตำรวจทั้งหมดและยุติปัญหาการคอร์รัปชั่น
จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 10 รายนับตั้งแต่เกิดการประท้วงเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา