สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 เสวยราชสมบัติอย่างเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ ในพิธีที่จัดขึ้นตามประวัติศาสตร์หลายร้อยปีของอังกฤษ
สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ขึ้นครองราชย์หลังจากการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว โดยพระราชพิธีพระบรมศพจะจัดขึ้น ณ วิหารเวสต์มินสเตอร์ ที่กรุงลอนดอน ในวันที่ 19 กันยายนนี้
เจ้าฟ้าชายชาลส์ พระโอรสพระองค์แรกของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทางเข้าพิธีเสวยราชสมบัติที่พระราชวังเซนต์เจมส์ในกรุงลอนดอน โดยมีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกด้วย
บรรดานักการเมือง ผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอังกฤษ รวมทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีทั้ง 6 คนที่ยังมีชีวิตอยู่ ต่างเข้าร่วมในพิธีเสวยราชย์ครั้งนี้ด้วยในฐานะ “สภาภาคยานุวัติ" ซึ่งมีหน้าที่รับรองพระราชาพระองค์ใหม่อย่างเป็นทางการ
สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ทรงมีพระราชดำรัสต่อสภาภาคยานุวัติ และทรงไว้อาลัยต่อพระราชมารดา ว่า "พระราชมารดาของข้าพเจ้าทรงประพฤติตนเป็นตัวอย่างในการทำงานด้วยความรักอย่างไม่เห็นแก่พระองค์เอง ให้แก่พสกนิกรทุกคน ตลอดจนสหราชอาณาจักรและเครือประเทศต่าง ๆ ที่อังกฤษเป็นส่วนหนึ่ง พระราชมารดาของข้าพเจ้าทรงครองราชย์ยาวนาน ทรงเสียสละทุ่มเทอย่างที่ไม่อาจเสมอเหมือน และในขณะที่เราทุกคนร่วมไว้อาลัย เราก็ขอขอบคุณต่อพระองค์เช่นกัน"
ส่วนที่รัฐสภาอังกฤษ บรรดาสมาชิกรัฐสภาระดับสูง รวมทั้งนายกรัฐมนตรีหญิง ลิซ ทรัสส์ กล่าวคำปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อกษัตริย์พระองค์ใหม่
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และพระราชินี คามิลลา เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชวังบักกิงแฮม โดยมีประชาชนหลายพันคนเฝ้ารอรับเสด็จตลอดทาง พร้อมโห่ร้องยินดีต่อกษัตริย์พระองค์ใหม่
ที่พระราชวังวินเซอร์ บรรดาสมาชิกราชวงศ์ รวมถึง เจ้าฟ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งเวลส์ พร้อมด้วยเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ดยุคและดัชเชสส์แห่งซัสเซกซ์ ต่างเสด็จร่วมกันเพื่อทักทายประชาชน และวางดอกไม้ไว้อาลัยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
ทั้งนี้ พระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นที่วิหารเวสต์มินสเตอร์ในวันที่ 19 กันยายนนี้ จะมีบรรดาผู้นำโลกเดินทางไปร่วมด้วยหลายคน รวมทั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ เบเดน และภริยา จิล ไบเดน