ลิ้งค์เชื่อมต่อ

กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนร่วมกันต่อต้านการใช้หุ่นยนต์นักฆ่าในการทำสงคราม


เจ้าหน้าที่จัดทำรายงานพิเศษเกี่ยวกับเรื่องการสังหารชีวิตแห่งสหประชาชาติได้ร่วมเรียกร้องให้มีการระงับการใช้หุ่นยนต์สังหารที่เรียกว่า killer robots ที่บรรดานักวิจารณ์เกรงว่าวันหนึ่งอาจจะสามารถทำงานได้เองโดยไม่ต้องอาศัยคำสั่งจากผู้บังคับการที่เป็นมนุษย์

อากาศยานไร้คนขับหรือที่เรียกทับศัพท์ว่า drone ถูกใช้ในการสงครามมานานหลายปีแล้วและกลายเป็นส่วนสำคัญของกองทัพสหรัฐในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธทาลีบันในอาฟกานิสถานและปากีสถาน

อากาศยานไร้คนขับรุ่น เดอ X-47B drone ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการทดสอบการใช้งาน เป็นโดรนที่ก้าวหน้ามารุ่นหนึ่งในโลก สามารถบินขึ้นจากเครื่องบินรบได้ ปัจจุบันมีหลายประเทศที่ใช้อากาศยานไร้คนขับ

นายโนเอล ชาร์คกี้ ศาสตราจารย์ด้านปัญญาเทียมและหุ่นยนต์และประธานInternational Committee for Robots Arms Control กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าอากาศยานไร้คนขับเป็นเทคโนโลยีที่แสดงให้เห็นว่าการรบและการสงครามได้กลายสภาพเป็นอุตสาหกรรมมากขึ้น
เขากล่าวว่าคำถามใหญ่ที่เกิดขึ้นคือใครจะเป็นคนจับตาเป้าสังหาร ใครจะเป็นคนตัดสินใจออกคำสั่งให้ลั่นไก เขากล่าวว่าเกิดความกังวลขึ้นว่าการออกคำสั่งให้ฆ่าจะกลายเป็นการทำงานโดยอัตโนมัติ ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีผู้บังคับการที่เป็นมนุษย์เป็นผู้เลือกเป้าสังหารและตั้งคำสั่งให้

คุณชาร์คกี้กล่าวว่าในปัจจุบันอากาศยานไร้คนขับยังทำงานภายใต้การกำกับดูแลของมนุษย์แต่ผู้สนับสนุนอากาศยานไร้คนขับแย้งว่าเทคโนโลยีนี้สามารถออกรบในสงครามได้แทนมนุษย์
ศาสตราจารย์คริสโตเฟอร์ โค้กเกอร์ แห่ง London School of Economics ที่กรุงลอนดอน กล่าวว่า ข้อโต้แย้งที่สำคัญในขณะนี้คือ หลายคนมองว่าโดรนมีประสิทธิภาพสูงกว่ามนุษย์มากมายหลายเท่า มันสามารถเฝ้าติดตามจับตาดูเป้าสังหารได้นานเป็นชั่วโมงๆ หรือ นานหลายวัน และจะตัดสินใจว่าจะทำการสังหารเป้าที่ติดตามอยู่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเป้าว่าเข้าข่ายตามที่ตั้งไว้ในโปรแกรมหรือไม่ แต่ไม่ได้หมายความว่าอากาศยานไร้คนขับจะรู้จริงๆว่าได้จัดการกับเป้าถูกตัวหรือผิดตัว

เสียงจากวิดีทัศน์โฆษณาหุ่นยนต์ SGR A1 ของบริษัท Samsung Techwin แห่งเกาหลีใต้ หุ่นยนต์รุ่นนี้มีกล้องสอดแนมอัฐริยะติดอยู่ในตัวและมุ่งที่จะนำไปใช้แทนทหารประจำการตามแนวชายแดน นอกจากมีกล้องสอดแนมแล้ว หุ่นยนต์รุ่นนี้ยังมีปืนกลขนาด 5.5 มิลลิเมตร แต่ยังถูกบังคับด้วยคน

กลุ่มรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชน Human Rights Watch ชี้ว่า สักวันหนึ่ง อาจจะมีการเลิกใช้คนบังคับ และปล่อยให้หุ่นยนต์ทำงานเองโดยอัตโนมัติ

ศาสตราจารย์โนเอล ชาร์คกี้ กล่าวว่าเราไม่สามารถโทษหุ่นยนต์ได้หากเกิดความผิดพลาด เพราหุ่นยนต์ไม่ได้มีความคิดผิดหรือถูก ในกรณีที่เราใช้คนเป็นผู้บังคับหุ่นยนต์ เราสามารถโทษได้ว่าคนเป็นผู้ตัดสินใจผิดพลาด

นักรณรงค์ต่อต้านการให้หุ่นยนต์นักฆ่าชี้ว่ามีบริษัทใหญ่ๆในอุตสาหกรรมนี้หลายแห่งแสดงความสนใจเป็นอย่างมากที่จะพัฒนาหุ่นยนต์นักฆ่าออกมาสู่ตลาด

ทีมเจ้าหน้าที่พิเศษแห่งสหประชาชาติที่จัดทำรายงานเรื่องนี้ได้ร่วมเรียกร้องให้มีการยุติการนำหุ่นยนต์สังหารไปใช้ประจำการ ประเด็นนี้จะถูกนำขึ้นถกในที่ประชุมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่เจนนีวา ในวันที่ 29 พฤษภาคมที่จะมาถึงนี้
XS
SM
MD
LG