รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวในการให้สัมภาษณ์เป็นพิเศษกับภาคภาษาเปอร์เชียของ Voice of America ว่า การนำข้อตกลงดังกล่าวมาบังคับใช้ให้ได้ผล จะทำให้โลกมีความปลอดภัยมากขึ้น ปรับเพิ่มมาตรฐานการครองชีพของประชาชนชาวอิหร่าน และอาจเปิดทางให้กับโอกาสอื่นๆ ระหว่างสหรัฐกับอิหร่านได้ด้วย
รัฐมนตรี John Kerry ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวแสดงความหวังด้วยว่า สมาชิกรัฐสภาสหรัฐที่สนับสนุนข้อตกลงนี้ จะสามารถโน้มน้าวชักชวนให้คนอื่นๆ เห็นด้วยว่า ข้อตกลงฉบับนี้ป้องกันมิให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์และความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งการรักษาความมั่นคงให้กับตะวันออกกลาง
รัฐสภาสหรัฐมีเวลา 60 วันสำหรับการพิจารณาข้อตกลงฉบับนี้ ซึ่งหมายความว่า ภายในวันที่ 19 กันยายน ควรจะเป็นที่รู้กันว่า รัฐสภา ซึ่งพรรค Republican คุมเสียงข้างมากอยู่ขณะนี้ จะให้การสนับสนุนหรือไม่
รัฐมนตรี Kerry เชื่อว่า เวลาสองเดือนนี้เพียงพอที่จะให้ผู้คนได้พินิจพิจารณาอย่างจริงจัง และเข้าใจได้ว่า ถ้าไม่ให้ความเห็นชอบ ทางเลือกอาจจะเป็นความขัดแย้งและสงคราม
ประธานาธิบดี Barack Obama กล่าวไว้ว่า จะใช้อำนาจยับยั้งหรือ veto ถ้ารัฐสภาลงมติไม่สนับสนุนข้อตกลงนี้
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านนำข้อตกลงฉบับนี้เสนอต่อรัฐสภาของอิหร่านในวันอังคาร
มีผู้วิพากษ์วิจารณ์การเจรจาทำข้อตกลงนี้ว่า จำกัดขอบข่ายไว้แคบเฉพาะเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเท่านั้น ในขณะที่มีประเด็นอื่นๆ ที่สหรัฐควรจะหยิบยกมาต่อรองด้วย รวมทั้งเรื่องสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และชาวอเมริกันหลายคนที่ถูกทางการอิหร่านควบคุมตัวไว้
รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐให้คำตอบว่า สถานภาพของโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ก้าวหน้า ทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องรีบด่วน
รัฐมนตรี John Kerry ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐบอกว่า ข้อตกลงนี้จะทำให้ปัญหาเรื่องนิวเคลียร์ตกไป ไม่อย่างนั้น อาจมีการแข่งขันแสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นในภูมิภาค ซึ่งจะไม่เป็นผลดีกับใครเลย
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลสหรัฐจึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพื่อกำจัดโอกาสความเป็นไปได้ที่จะมีความขัดแย้งเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ โดยรัฐสภาสหรัฐและของอิหร่านจะต้องให้ความเห็นชอบด้วย
คณะมนตรีความมั่นคงขององค์การสหประชาชาติลงมติเป็นเอกฉันท์สนับสนุนข้อตกลงฉบับนี้แล้วเมื่อวันจันทร์
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐกล่าวต่อไปว่า หลังจากที่รัฐสภาสหรัฐให้ความเห็นชอบต่อข้อตกลงนี้ รวมทั้งให้ยกเลิกมาตรการลงโทษอิหร่านทางเศรษฐกิจแล้ว คงจะใช้เวลาราวๆ หกเดือนก่อนที่จะเห็นผลเกิดขึ้นตามมา
รัฐมนตรี Kerry กล่าวว่า ถ้าได้รับความเห็นชอบและนำมาบังคับใช้อย่างเต็มที่ ประชาชนชาวอิหร่านจะเห็นมาตรฐานการครองชีพของตนดีขึ้น เมื่อมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจที่ยับยั้งการค้า การเดินทางและการลงทุนถูกยกเลิกไป
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐย้ำไว้ด้วยว่า สหรัฐจะไม่มีวันละเลยประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน และจะเรียกร้องเสรีภาพให้กับคนอเมริกันที่ถูกอิหร่านควบคุมตัวไว้ต่อไปด้วย
ในขณะเดียวกัน สหรัฐก็จะมุ่งหน้าทำงานต่อไปเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะในซีเรีย อิรัก เยเมน หรืออียิปต์