ขณะนี้ สื่อสหรัฐฯกำลังจับจ้องกระบวนการกลั่นกรองในวุฒิสภา เพื่อที่จะตรวจสอบนายเบร็ทท์ คาวานอห์ (Brett Kavanaugh) ซึ่งได้รับเสนอชื่อจากทำเนียบขาวให้รับหน้าที่ผู้พิพากษาศาลสูงอเมริกัน
ความปั่นป่วนล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากสตรีรายหนึ่ง ที่ชื่อ คริสติน บลาสซีย์ ฟอร์ด (Christine Blasey Ford) กล่าวหาว่า นายคาวานอห์ ประทุษร้ายเธอทางเพศเมื่อหลายสิบปีก่อน
คำกล่าวหานี้ถูกเปิดเผยท่ามกลางการเคลื่อนไหวต่อเนื่องด้านสิทธิสตรี ในยุค #MeToo ที่ผู้คนตื่นตัวกับเหตุการณ์ผู้หญิงถูกคุกคามทางเพศ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทราบดีว่าความพยายามของเขาที่จะแต่งตั้งนาย คาวานอห์ ให้เป็นผู้พิพากษาศาลสูง รายที่ 9 มีความหมายอย่างมากต่อทิศทางของกฎหมายสหรัฐฯต่อไปจากนี้
ตำแหน่งดังกล่าวไม่มีวาระสิ้นสุด และผู้พิพากษาศาลสูง ลำดับที่ 9 นี้ อาจจะมีบทบาทตัดสินความขัดแย้งทางกฎหมายในเรื่องร้อนๆทางสังคมและการเมืองในขณะนี้ เช่น กฎหมายคนเข้าเมืองและเสรีภาพในการทำแท้ง
กระแส #MeToo เริ่มต้นขึ้นมาราวหนึ่งปีแล้ว และทำให้ผู้หญิงที่เคยถูกรังแกทางเพศ กล้าที่จะเล่าเรื่องราวของพวกเธออย่างเปิดเผย
การตื่นตัวของสตรียังทำให้นักการเมืองระมัดระวังเกี่ยวกับท่าทีในหัวข้อที่อ่อนไหวนี้ โดยเฉพาะพรรครีพับลิกันที่เผชิญความเสี่ยงต่อการเสียเสียงข้างมากในสภา จากการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
นายสตู รอเธ็นเบิร์ก บรรณาธิการอาวุโสของสื่อการเมือง Inside Election กล่าวว่าประเด็นที่เกี่ยวกับ #MeToo เป็นเรื่องใหญ่ทางการเมืองในยุคนี้
ปัจจุบัน คริสติน บลาสซีย์ ฟอร์ด สตรีผู้กล่าวหา เบร็ทท์ คาวานอห์ เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในรัฐแคลิฟอร์เนีย เธอกล่าวว่าเมื่อกว่า 30 ปีก่อนที่ทั้งคู่ยังเป็นวัยรุ่น นายคาวานอห์ ละเมิดเธอทางเพศ ขณะที่เมา จับเธอกดบนเตียง และสัมผัสร่างกายของเธอ นอกจากนั้นยังเอามือปิดปากเธอไม่ให้ร้องโวยวาย
นายคาวานอห์ปฏิเสธคำอ้างของคริสติน ฟอร์ด โดยสิ้นเชิง
ขณะนี้คณะกรรมาธิการตุลาการของวุฒิสภา กำลังพิจารณาประวัติของ เบร็ทท์ คาวานอห์ ว่าจะให้เป็นตุลาการศาลสูงหรือไม่ และต้องวินิจฉัยว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อข้อกล่าวหาของคริสติน ฟอร์ด
เธอต้องการให้เกิดการสืบสวนโดยหน่วยงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ ก่อนที่เธอจะให้คณะกรรมาธิการไต่ถาม ซึ่งจะเป็นการให้ข้อมูลภายใต้การให้สัตย์ปฏิญาณว่าจะพูดความจริง ขั้นตอนที่ว่าอาจเกิดขึ้นรวดเร็วในวันจันทร์หน้า
ส่วนฝ่ายรีพับลิกัน เห็นว่าการสืบสวนโดยเอฟบีไอก่อนการให้ข้อมูลต่อวุฒิสภานั้นไม่จำเป็น
ซีอีโอของศูนย์ National Women’s Law Center กอสส์ กราฟส์ (Goss Graves) กล่าวว่าเธอเชื่อในข้อมูลของคริสติน ฟอร์ด และว่าวุฒิสมาชิกในสภาควรปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพและเป็นธรรม
เธอกล่าวว่า แม้ในยุค #MeToo คนจำนวนมากยังกลัวที่จะออกมาเปิดเผยการตกเป็นเหยื่อของพวกเขา เพราะ คนเหล่านี้มีเหตุที่ดีเรื่องความเสี่ยงต่อการถูกแก้แค้น คำขู่ต่อสวัสดิภาพของตนเอง ครอบครัว และอาชีพการงาน
ในจดหมายต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภา ทนายของคริสติน ฟอร์ด กล่าวว่าลูกความผู้นี้ถูกขู่สังหารและต้องไปอยู่ที่อื่นหลังจากที่ออกมาเล่าเรื่องราวของเธอต่อสาธารณชน
สตู รอเธ็นเบิร์ก บรรณาธิการอาวุโสของ Inside Election กล่าวว่าในที่สุดแล้ว นายคาวานอห์น่าจะสามารถได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา เพราะพรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากอยู่
แต่การคุมเสียงข้างมากของรีพับลิกันอาจสั่นคลอน หลังการเลือกตั้งวันที่ 6 พฤศจิกายน เพราะการสำรวจความคิดเห็นประชาชนชี้ว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่เป็นสตรี นิยมพรรคเดโมแครตเหนือกว่ารีพับลิกัน ราว 20 เปอร์เซ็นต์
และนอกจากนี้ยังมี จำนวนผู้หญิงที่ลงเลือกตั้งมากเป็นประวัติการณ์ในครั้งนี้ด้วย
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Cindy Saine)