รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ระบุว่า จีน “ยังคงเดินหน้าบีบบังคับ ทำการคุกคาม และอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ อย่างต่อเนื่อง”
ในระหว่างการเยือนสิงคโปร์ในสัปดาห์นี้ รองปธน.แฮร์ริส ย้ำด้วยว่า การกระทำต่างๆ ของจีน “ยังบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยภายใต้กฎเกณฑ์ต่างๆ และคุกคามอธิปไตยของประเทศอื่นๆ ต่อไป”
ทั้งนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประกาศให้การต่อต้านอิทธิพลของจีนเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ
รองปธน.แฮร์ริส ยืนยันว่า “สหรัฐฯ จะคงยืนหยัดเคียงคู่พันธมิตรและหุ้นส่วนต่างๆ เพื่อเผชิญหน้าภัยคุกคามทั้งหลาย” และว่า “พันธกิจของสหรัฐฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินโด-แปซิฟิกนั้นไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือตั้งใจจะบังคับให้ใครต้องเลือกเข้าข้างประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมวิสัยทัศน์ด้านบวกของสหรัฐฯ ผ่านการมีส่วนร่วมและการเข้าเป็นหุ้นส่วนในภูมิภาคนี้”
ขณะเดียวกัน หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน โต้กลับโดยระบุว่า สหรัฐฯ กำลังพยายามทำการที่อาจเป็นการ “ใส่ร้ายป้ายสี กดขี่ บีบบังคับ และข่มเหงรังแกประเทศอื่นๆ อย่างจงใจ โดยไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบใดๆ เลย”
อย่างไรก็ตาม รองปธน.สหรัฐฯ ยืนยัน ความมุ่งมั่นของรัฐบาลกรุงวอชิงตันที่จะเดินหน้าส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ เสรีภาพในน่านน้ำ การพาณิชย์ที่ไม่มีข้อจำกัด การสนับสนุนสิทธิมนุษยชน และความสงบเรียบร้อยภายใต้กฎเกณฑ์ต่างๆ ในระดับสากล เพื่อประโยชน์สุขของผู้คนนับล้านที่ต้องพึ่งพาเส้นทางเดินเรือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินโด-แปซิฟิก เพื่อทำมาหากิน และการพาณิชย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้
นอกจากประเด็นดังกล่าวแล้ว รองปธน.แฮร์ริส ยังพูดถึงสถานการณ์ในเมียนมา โดยระบุว่า สหรัฐฯ “รู้สึกกังวลอย่างมาก” เกี่ยวกับการก่อรัฐประหารโดยกองทัพเมียนมาเมื่อต้นปี และกล่าวว่า สหรัฐฯ “ประณามการใช้ความรุนแรงต่างๆ ทั้งยังขอสัญญาที่จะสนับสนุนประชาชน(ของเมียนมา) ในการนำพาประเทศให้กลับคืนสู่เส้นทางแห่งประชาธิปไตย และหวังว่า ประเทศทั้งหลายในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก จะร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการนี้ด้วย”
รายงานข่าวระบุว่า หลังการประชุมโต๊ะกลมกับตัวแทนภาคธุรกิจสิงคโปร์เกี่ยวกับประเด็นห่วงโซ่อุปทานและความร่วมมือต่างๆแล้ว ในช่วงบ่ายของวันอังคาร รองปธน.แฮร์ริส จะเดินทางต่อไปยังเวียดนาม ซึ่งเป็นจุดหมายที่สองของการเยือนอาเซียน ที่จะมีการประชุมเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ที่มีการหยิบยกขึ้นมาหารือที่สิงคโปร์ เช่น สภาพภูมิอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลง และความมั่นคงในภูมิภาค เป็นต้น
ทั้งนี้ รองปธน.แฮร์ริส เป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกของประเทศที่เดินทางเยือนกรุงฮานอย ของเวียดนามด้วย
