กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวเมื่อคืนวันอังคารว่าเจ้าหน้าที่เห็นว่าอาจจะมี "ความพยายามขัดขวางการสืบสวนของรัฐฯ" เรื่องการเก็บเอกสารทางการที่บ้านพักในฟลอริด้าของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และจากนั้นเจ้าหน้าที่ใช้เหตุผลนี้โน้มน้าวให้ศาลออกหมายค้นสถานที่ดังกล่าวได้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
การเข้าค้นตามหมายศาลเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม เกิดขึ้นหลังจากที่หนึ่งในทนายของทรัมป์กล่าวในเดือนมิถุนายนว่าเอกสารที่มีข้อมูลลับ ที่บ้านพัก มาร์-อะ-ลาโก้ของทรัมป์ ได้ถูกส่งคืนให้หอจดหมายเหตุของทางการสหรัฐฯไปหมดแล้ว ตามกฎหมายอเมริกันที่ว่า เมื่อใดที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯลงจากตำแหน่งเขาต้องคืนเอกสารทางการทั้งหมดให้รัฐบาลกลางโดยทันที
คณทำงานของทรัมป์ ได้ส่งคืนเอกสาร 15 กล่อง ที่มีข้อมูลลับ 184 ฉบับ สู่การดูเเลของหอจดหมายเหตุในเดือนมกราคม และมีการคืนเอกสารเพิ่มเติมอีกในเดือนมิถุนายน
แต่กระทรวงยุติธรรมอเมริกัน กล่าวว่า ทนายของทรัมป์คนดังกล่าวได้ ขัดขวาง "เจ้าหน้าที่อย่างเปิดเผย ในการเปิดกล่องเอกสารหรือดูเอกสารภายในกล่องที่ยังคงถูกเก็บไว้ที่ห้องเก็บของ (ที่มาร์-อะ-ลาโก้) และทำให้เจ้าหน้าที่หมดโอกาสที่จะยืนยันว่าไม่มีเอกสารที่ถูกระบุว่าเป็นข้อมูลลับหลงเหลืออยู่หรือไม่"
ทางกระทรวงฯ จึงรวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่า การขอค้นใด ๆ ที่จำกัดอยู่เพียงเเค่ห้องเก็บของห้องดังกล่าวเท่านั้นจะไม่อาจทำให้เจอเอกสารที่มีข้อมูลลับ ที่ยังอาจตกค้างอยู่ที่ มาร์-อะ-ลาโก้
เมื่อกระทรวงฯ เกิดความสงสัยดังกล่าว รัฐมนตรียุติธรรม เมอร์ริค การ์เเลนด์จึงให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตรวจค้นมาร์-อะ-ลาโก้และได้รับอนุมัติจากผู้พิพากษาในรัฐฟลอริด้าในเวลาต่อมา โดยการเข้าค้นบ้านอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯในลักษณะนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เฟพ
เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า ในการค้นมาร์-อะ-ลาโก้เมื่อต้นเดือนสิงหาคม พบว่ามีกล่องเอกสารอีก 33 ลัง ที่มีเอกสารลับกว่า 100 ฉบับ ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่ถูกระบุว่าเป็นความลับสุดยอดด้านความมั่นคง
กระทรวงยุติธรรมระบุว่า ในการค้นเพียงหนึ่งวัน พบเอกสารลับกว่าสองเท่าของการส่งคืนโดยคณะทำงานของทรัมป์เมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งในตอนนี้เป็นไปตามคำสั่งของคณะลูกขุนใหญ่
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เขียนข้อความลงบนโซเชี่บลมีเดียว่า "เป็นวิธีของเอฟบีไอที่เเย่มากๆ ระหว่างการบุกค้นมาร์-อะ-ลาโก้ เอกสารกระจายอย่างสะเปะสะปะทั่วพื้นไปหมด (อาจจะทำเป็นว่านั่นเป็นฝีมือของผมก็ได้) จากนั้นเริ่มถ่ายรูปเพื่อให้สาธารณชนเห็น"
ทรัมป์บอกย้ำว่าตนเป็นผู้ปลดล็อคความเป็นเอกสารลับเหล่านั้นไปเเล้ว อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยที่จะเเสดงหลักฐานใด ๆ ว่าตนได้ทำเช่นนั้นก่อนออกจากตำเเหน่ง ซึ่งเป็นเวลาที่อำนาจการปลดล็อคเอกสารลับของรัฐหมดลงไปด้วย
ขณะนี้ ทรัมป์กำลังพยาามให้มีการเเต่งตั้งเจ้าหน้าที่พิเศษเพื่อทำงานในเรื่องนี้ แต่ทางการอเมริกันกล่าวว่าอาจทำให้ขัดกับการทำงานสืบสวนและงานด้านข่าวกรอง
ทั้งนี้จะมีการรับฟังเหตุผลในเรื่องการเเต่งตั้งเจ้าหน้าที่พิเศษในวันพฤหัสบดี
- ที่มา: วีโอเอ เอพี รอยเตอร์