ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ จอห์น โบลตัน กล่าวกับเครือข่ายโทรทัศน์ Fox News ในวันอาทิตย์ว่า ตนสามารถยืนยันได้ว่าสหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารประธานาธิบดีเวเนซุเอล่า นิโคลาส์ มาดูโร อย่างแน่นอน
เหตุการณ์ลอบสังหารผู้นำเวเนซุเอล่าเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ เมื่อภาพข่าวทางโทรทัศน์แสดงให้เห็น ปธน.มาดูโร กำลังกล่าวปราศรัย จากนั้นได้ยินเสียงระเบิดติดกันหลายครั้ง ก่อนที่ทหารเวเนซุเอล่าจะกรูเข้ามาคุ้มกันตัวผู้นำเวเนซุเอล่าเอาไว้
ปธน.มาดูโร ซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ระบุว่าตนตกเป็นเป้าของการถูกโจมตีโดย 'โดรนติดระเบิด' แต่พระเจ้า รวมทั้งประชาชนและทหารของเวเนซุเอล่า ช่วยชีวิตตนไว้ ทำให้ตนเชื่อว่าจะมีชีวิตยืนยาวต่อไปอีกหลายปี
หนึ่งในประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวกับวีโอเอว่า เห็นเครื่องบินโดรนลำหนึ่งลงจอดที่ลานจอดรถข้างอาคารหลังหนึ่งไม่ไกลจากจุดที่เกิดระเบิด ก่อนที่โดรนลำนั้นจะระเบิดตัวเองในอีก 10 นาทีต่อมา
ภายหลังเหตุการณ์ลอบสังหารเพียงไม่กี่ชั่วโมง ปธน.มาดูโร กล่าวว่า ได้จับกุมผู้ก่อเหตุไว้แล้ว โดยหลักฐานทุกอย่างพุ่งเป้าไปที่กลุ่มขวาจัดที่มาจากโคลัมเบีย แต่จากการสืบสวนเชื่อว่าเงินทุนสนับสนุนนั้นมาจากผู้ที่อาศัยอยู่ในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ซึ่งตนเชื่อว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมที่จะต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายเหล่านั้น
ปธน.มาดูโร กล่าวด้วยว่า ผู้นิยมลัทธิจักรวรรดินิยมในอเมริกาต้องการให้เกิดความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองในเวเนซุเอล่า
ผู้นำเวเนซุเอล่ายังกล่าวถึง ปธน.ฮวน มานูเอล ซานโตส ของโคลัมเบีย ว่าอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารครั้งนี้ แต่สำนักข่าว AFP ในฝรั่งเศส รายงานอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลโคลัมเบียว่า คำกล่าวหาของ ปธน.เวเนซุเอล่านั้นไม่มีหลักฐานรองรับ
ด้านนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า หาก ปธน.มาดูโร มีหลักฐานแน่นหนาว่าสหรัฐฯ หรือผู้ที่อยู่ในสหรัฐฯ สนับสนุนการลอบสังหารจริง ก็ควรแสดงหลักฐานนั้นต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ทันที เพื่อดำเนินการอย่างเหมาะสมต่อไป แต่ในขณะเดียวกัน เวเนซุเอล่าเองก็ควรหันไปให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหาคอร์รัปชั่นและการกดขี่ของรัฐบาลนายมาดูโรเองด้วย
ทางรัฐบาลเวเนซุเอล่ากล่าวว่า กำลังสอบสวนเรื่องนี้ และจะมีการเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ ในวันจันทร์
เวเนซุเอล่าตกอยู่ในความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากที่เคยเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกาใต้ ปัจจุบันเศรษฐกิจเวเนซุเอล่ากำลังถดถอย อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง เต็มไปด้วยปัญหาคอร์รัปชั่นและการบริหารประเทศที่ไร้ประสิทธิภาพ
ประธานาธิบดีมาดูโร เพิ่งชนะเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม และจะปกครองประเทศไปอีกอย่างน้อย 6 ปี ท่ามกลางการประท้วงของฝ่ายค้านและประชาชนที่ไม่พอใจกับการเลือกตั้งที่ถูกกล่าวหาว่าเต็มไปด้วยการฉ้อโกงครั้งนี้
