ผู้บริหารเกาะฮ่องกงยืนยันว่า การดำเนินการอายัดทรัพย์สินของเศรษฐีวงการสื่อ จิมมี ไล (Jimmy Lai) ผู้มีบทบาทเรียกร้องประชาธิปไตย คือสิ่งที่จำเป็นต้องกระทำภายใต้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ เพื่อความปลอดภัยของชาวจีนทุกคน
แครี แลม ผู้บริหารเกาะฮ่องกงบอกกับผู้สื่อข่าวในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่รัฐบาลจีนนำมาใช้กับฮ่องกงตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ให้อำนาจแก่ทางการท้องถิ่นทำการ “อายัดทรัพย์สินที่น่าสงสัยว่าจะนำไปสู่การบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ”
แลม ยังระบุด้วยว่า การดำเนินตามกฎหมายนี้ หมายถึง “การที่รัฐบาลฮ่องกงมีความจริงจังและแข็งขันในการจัดการกับปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ ที่ไม่ใช่เพียงแต่อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ แต่ยังหมายถึงความปลอดภัยของสังคมชาวฮ่องกง รวมทั้งประชาชนชาวจีนจำนวน 1,400 ล้านคนด้วย”
ผู้ที่ออกมาให้ความเห็นวิจารณ์บริบทการเมืองฮ่องกงและจีนมองว่า กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่นี้ มีจุดมุ่งหมายที่จะกำจัดผู้ที่ออกมาต่อต้านจีนที่อยู่ในเขตกึ่งปกครองตนเองนี้มากกว่า ขณะที่ผู้ที่เห็นด้วยกับกฎหมายใหม่เชื่อว่า นี่คือสิ่งที่จะช่วยให้มั่นใจได้ว่า ผู้บริหารฮ่องกงคือผู้ที่มีความรักชาติจีนและยึดมั่นที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยพร้อมๆ กับเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจต่อไป
เท่าที่ผ่านมา แครี แลม คือ ผู้ที่ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของความพยายามปราบปรามผู้เห็นต่างและต่อต้านรัฐบาลกรุงปักกิ่ง แม้บางคนเชื่อว่า ผู้บริหารเกาะฮ่องกงรายนี้ทำทุกอย่างตามคำสั่งของรัฐบาลจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่มองว่า ฮ่องกงคือแหล่งกำเนิดของแรงต้านตนที่แผ่ขยายไปทั่วประเทศเสมอมา
ในส่วนของการอายัดทรัพย์สินของ จิมมี ไล ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัท Next Digital ผู้จัดพิมพ์ Apple Daily หนังสือพิมพ์แทบลอยด์แนวคิดสนับสนุนประชาธิปไตยที่ทรงอิทธิพลในฮ่องกง ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงต้องประกาศพักการซื้อขายหุ้นของบริษัทแห่งนี้เมื่อวันจันทร์ไปแล้ว
จิมมี ไล มหาเศรษฐีเจ้าพ่อสื่อผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ Apple Daily เป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยคนสำคัญของฮ่องกง ที่ถูกตัดสินโทษจำคุก 14 เดือน ฐานมีส่วนร่วมและจัดการชุมนุมในฮ่องกงเมื่อปี 2019 และยังถูกดำเนินคดีในอีก 3 ข้อกล่าวหาภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ที่รวมถึงสมคบคิดกับรัฐบาลต่างชาติ
ไล ในวัย 73 ปี ถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเท่าที่เคยถูกจับกุมภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ที่ระบุไว้ว่า ใครก็ตามที่ต้องสงสัยว่าพยายามก่อการร้าย การแบ่งแยกดินแดน ล้มล้างอำนาจการปกครอง หรือสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ อาจถูกดำเนินคดี หรือต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตหากตัดสินแล้วว่ามีความผิดจริง