เจซเซ ทากายามะ ชายญี่ปุ่นจากเมืองโอซากา กลายเป็นแขกเยือน ‘มาชูปิกชู’ ซากเมืองอารยธรรมโบราณของชาวอินคา คนแรกในรอบเกือบเจ็ดเดือน นับตั้งแต่ทางการเปรูประกาศปิดสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังเพื่อจำกัดการระบาดของไวรัสโควิด-19
ทากายามะตั้งใจเดินทางมาเปรูเพียงแค่ไม่กี่วันเพื่อมาเยือนเมืองโบราณอายุ 500 ปีแห่งนี้โดยเฉพาะ แต่เขากลับติดอยู่เมือง Aguas Calientes ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ใกล้กับมาชูปิกชู นานถึงเกือบเจ็ดเดือน เนื่องจากทางการเปรูสั่งล็อคดาวน์สถานที่ต่าง ๆ เพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19
เมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน ทากายามะก็เริ่มขัดสนทางการเงินและคิดว่าคงไม่ได้เยือนสถานที่ในฝันแล้ว เขากล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า เขาไปวิ่งทุกเช้าเพื่อเฝ้ามองูมาชูปิกชูจากระยะไกล เขาเคยคิดว่ามาชูปิกชูคงไม่กลับมาเปิดภายในปีนี้ และตัวเขาคงไม่ได้มีโอกาสไปแหล่งอารยธรรมของยูเนสโกแห่งนี้อีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม ต่อมาทางการเปรูก็ช่วยให้ทากายามะทำความฝันของเขาให้เป็นจริง โดยอเลฮันโดร เนย์รา รัฐมนตรีวัฒนธรรมของเปรู กล่าวว่า ทากายามะได้เข้าไปยังมาชูปิกชูพร้อมหัวหน้าผู้ดูแลสถานที่ เพื่อให้เขาได้ทำตามฝันก่อนที่จะเดินทางกลับญี่ปุ่น
“ผมคิดว่าผมคงไม่ได้มา [มาชูปิกชู] แล้ว แต่ทุกคนก็ไปขอรัฐบาลและทางเมืองให้ผม และผมก็ได้รับอนุญาตให้ไปเยือน [มาชูปิกชู] ได้เป็นกรณีพิเศษสุดๆ” ทากายามะเขียนในโพสอินสตาแกรมของเขา “ชาวเปรูใจดีมากๆ ขอบคุณมากๆ นะครับ!”
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทากายามะจะกลับญี่ปุ่นในวันศุกร์นี้ โดยเขาบอกว่า เขาคงร้องไห้เมื่อต้องกลับประเทศแน่ ๆ โดยช่วงเวลาเจ็ดเดือนในเมือง Aguas Calientes เป็นช่วงเวลาพิเศษที่เขาได้ค้นพบ ‘ตัวตนด้านใหม่’ ของเขา
เนย์รากล่าวว่า รัฐบาลวางแผนเปิดมาชูปิกชูอีกครั้งในเดือนหน้า แต่จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่มาชูปิกชูได้เพียง 30 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนนักท่องเที่ยวปกติที่ 675 คนต่อวันเท่านั้น
ทั้งนี้ แม้เปรูจะเป็นประเทศแรก ๆ ที่ประกาศล็อคดาวน์เพื่อจำกัดการระบาดของไวรัส แต่กลับเป็นประเทศที่มีอัตราผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 สูงเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก โดยข้อมูลจากมหาวิทยาจอนส์ ฮอพกินส์ ระบุว่า เปรูมีผู้ติดเชื้อ 851,171 คน และมีผู้เสียชีวิต 33,000 คน