นายโยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชนะการออกเสียงลงมติภายในพรรค ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democratic Party - LDP) คนใหม่ของญี่ปุ่น ซึ่งหมายความว่าจะเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่แทนนายชินโซ่ อาเบะ ที่ประกาศสละตำแหน่งเนื่องจากปัญหาสุขภาพ
นายซูกะ วัย 71 ปี ทำหน้าที่ในฐานะผู้ช่วยคนสำคัญของนายอาเบะมานาน 8 ปี เขามิได้มาจากครอบครัวนักการเมืองเหมือนผู้นำการเมืองคนอื่น ๆ ของญี่ปุ่น และมิได้สังกัดกลุ่มใดในพรรค LDP แต่ดูเหมือนนายอาเบะได้เจาะจงเลือกไว้แล้วว่าต้องเป็นผู้ช่วยคนนี้เท่านั้นที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งสำคัญแทนตัวเอง
นายซูกะ ได้รับคะแนนเสียง 70% ในการลงมติภายในพรรค เอาชนะคู่แข่งสำคัญคืออดีตรัฐมนตรีกลาโหม ชิเกรุ อิชิบะ และหัวหน้าฝ่ายนโยบายของ LDP ฟูมิโอะ กิชิดะ ไปอย่างง่ายดาย และเนื่องจากพรรค LDP ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่น ดังนั้นหัวหน้าพรรคจึงจะได้นั่งในตำแหน่งนายกฯ โดยอัตโนมัติ
หลังจากที่ชนะการลงมติเลือกหัวหน้าพรรคในวันจันทร์ นายซูกะได้กล่าวถึงเกียรติประวัติของตนในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งความภูมิใจในฐานะนักการเมืองที่สร้างตัวเองขึ้นมาศูนย์ จากลูกชาวนาคนหนึ่งในจังหวัดอากิตะ จนกลายมาเป็นหัวหน้าพรรค LDP ที่มีโอกาสสูงสุดที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น
นายซูกะเติบโตในเขตชนบทของจังหวัดอากิตะ เขาเริ่มเส้นทางการเมืองด้วยการสมัครเป็นสมาชิกสภาส่วนท้องถิ่น ก่อนที่จะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนมีความใกล้ชิดกับนายอาเบะ กระทั่งนายอาเบะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง เมื่อปี ค.ศ. 2012 จึงได้เลือกนายซูกะให้มาทำหน้าที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งต้องรับบทบาททั้งโฆษกรัฐบาลและหัวหน้าคณะทำงานในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอาเบะ
นายซูกะมีบุคลิกเปิดเผยจริงใจ ไม่โอ้อวด เงียบขรึม และมักจะไม่ทำตัวให้เป็นจุดสนใจของสาธารณชน แม้ว่าจะปรากฎคำพูดของเขาถูกอ้างอิงบนหน้าสื่อเป็นประจำ
สิ่งที่ทำให้นายซูกะเป็นที่จดจำต่อชาวญี่ปุ่นมากที่สุด คือการที่เขาออกมาเปิดเผยชื่อยุคสมัยของจักรพรรดิพระองค์ใหม่ของญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว จนทำให้เขามีชื่อเรียกติดปากว่า "คุณลุงเรอิวะ" ตั้งแต่นั้น
และแม้จะเป็นคนนิ่ง ๆ แต่นายซูกะก็ได้รับการยกย่องเรื่องการบริหารจัดการและสร้างพันธมิตรทางการเมือง ซึ่งช่วยอธิบายได้ว่าทำไมกลุ่มต่าง ๆ ในพรรค LDP จึงพากันเข้ามาหาตัวเขาหลังจากที่นายอาเบะประกาศลงจากตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว
รัฐสภาญี่ปุ่นจะลงมติอย่างเป็นทางการในวันพุธนี้ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งจะทำหน้าที่แทนนายอาเบะไปจนหมดวาระในเดือนกันยายนปีหน้า หรืออาจมีการยุบสภาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่
คาดว่านายซูกะจะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจตามแนวทางเดิมของนายกรัฐมนตรีอาเบะ หรือ “Abenomics” ซึ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายทางการเงินและการคลัง และการปฏิรูปโครงสร้างต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางปัญหาหลายอย่างที่รุมเร้า เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นและเศรษฐกิจโลก ปัญหาเงินเฟ้อ อายุเฉลี่ยของประชากรสูงขึ้น อัตราการเกิดต่ำ และการระบาดของโควิด-19
ส่วนในด้านการต่างประเทศ นักวิเคราะห์ไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากนักภายใต้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยจะมุ่งเน้นที่การเพิ่มบทบาทของญี่ปุ่นบนเวทีโลก และต้านทานการขยายอิทธิพลของจีนในเอเชีย